SABINA ประเดิมไตรมาสแรกปี 2566 สุดปัง รับอานิสงส์บาทอ่อนทะลุ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ดันรายได้รับจ้างผลิต (OEM) ที่รับรู้เป็นสกุลเงินดอลลาร์เพิ่ม หลังทยอยส่งมอบสินค้าที่ผลิตในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 และเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสแรกปีนี้ ขณะที่ช่องทางค้าปลีก (Retail) ซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายหลัก ได้แรงหนุนจากแคมเปญ "ซาบีน่า บราเลส" ดันขายยอดพุ่งกระฉูด ล่าสุด SABINA ขึ้นแท่นแบรนด์สินค้าที่มียอดขายสูงสุด โปร 3.3 บนแพลตฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ชั้นนำทั้งช้อปปี้และลาซาด้า
นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ "ซาบีน่า" เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตทั้งรายได้และกำไรสุทธิในปี 2565 ได้อย่างน่าพอใจ ในปีนี้ SABINA ยังออกสตาร์ทได้ดี โดยในไตรมาสแรกมีปัจจัยสนับสนุนรายได้ทั้ง 3 ช่องทางหลักอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นช่องทางค้าปลีก (Retail) ช่องทางออนไลน์ (Non Store Retailing : NSR) รวมถึงช่องทางรับจ้างผลิต (OEM) โดยเฉพาะช่องทาง OEM ที่ได้รับปัจจัยบวกจากการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้เป็นสกุลเงินต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
"คำสั่งซื้อจากลูกค้าต่างประเทศเข้ามาอย่างหนาแน่นเต็มกำลังการผลิตตั้งแต่ครึ่งหลังของปีที่แล้ว ซึ่งเราทยอยผลิตและส่งมอบสินค้าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 ก่อนที่จะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่แถว 34 บาทปลายๆ จนถึง 35 บาทต้นๆ ทำให้เรามีรายได้จากช่องทาง OEM เพิ่มขึ้น จากการรับรู้รายได้เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าว
ขณะที่ช่องทางค้าปลีก (Retail) ซึ่งเป็นช่องทางหลัก ได้รับปัจจัยบวกจากการออกสินค้าแคมเปญ "ซาบีน่า บราเลส" (SABINA BRALESS) ที่มาพร้อมนวัตกรรม "สบายเหมือนไม่ได้ใส่บรา" ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมถึงแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ "ซาบีน่า บราเลส" กลายเป็นสินค้าฮีโร่ ที่สร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกันกับช่องทางออนไลน์ (Non Store Retailing : NSR) ที่ล่าสุดสินค้า "ซาบีน่า" ขึ้นแท่นแบรนด์สินค้าที่มียอดขายสูงสุดบนแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ชั้นนำ ทั้งลาซาด้าและช้อปปี้ กับแคมเปญโปรโมชั่น 3.3
"เป้าหมายของ SABINA ในปีนี้ เราตั้งเป้าสร้างการเติบโตเพิ่มขึ้น 10% ของปีก่อน ซึ่งจะทำให้เราสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการมีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกัน เราจะยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไร โดยเฉพาะอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ซึ่งในปี 2565 อยู่ที่ 13.1% เป็นอัตราสูงสุดที่เราเคยทำได้ แต่สำหรับ SABINA ในช่วงเวลาที่ท้าทายแบบนี้ เราเชื่อว่า ทุกสถิติมีไว้เพื่อทำลาย ด้วยความทุ่มเทของทั้งฝ่ายบริหารและพนักงานที่มุ่งมั่นจะสร้างงบการเงิน ทั้งฝั่งรายได้และค่าใช้จ่ายที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต" นางสาวดวงดาวกล่าว