บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี ("AGE") ประกาศเดินหน้าขยายธุรกิจครบ 4 มิติ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ และต้นทุนการขนส่งได้อย่างลงตัว จากการมี facility การขนส่งที่ครบวงจร หนุนรายได้ปี 2566 สร้างสถิติ All Time High ที่ระดับ 23,400 ล้านบาท ด้าน ประธานกรรมการบริหาร "พนม ควรสถาพร" ส่งซิกวันที่ 14 มี.ค.66 เตรียมขึ้น XD รับปันผลทั้งหุ้นทั้งเงินสด
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) ("AGE") ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติสก์แบบครบวงจร ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า เปิดเผยว่า สำหรับปี 2566 บริษัทฯยังคงเดินเกมรุกหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์การขยายธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้ในปีนี้ ส่งผลให้บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำผลการดำเนินงาน สู่ระดับ All Time High ที่ระดับ 23,400 ล้านบาทได้อย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายถ่านหิน และสินค้าเกษตร 96% ส่วนโลจิสติกส์ประมาณ 4% ของรายได้รวม
ทั้งนี้ เพื่อการบริหารจัดการต้นทุนของราคาถ่านหินให้มีประสิทธิภาพ และการมีต้นทุนการขนส่ง ที่สามารถแข่งขันได้จากการมี facility การขนส่งและการดำเนินการที่ครบวงจร บริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจออกเป็น 4 มิติ ดังนี้ 1. การขยายตลาดในกลุ่มธุรกิจถ่านหินทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม กัมพูชา เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวลดลงส่งผลให้บริษัทฯตั้งเป้าปริมาณการขายถ่านหินสำหรับปีนี้ไว้ที่ระดับ 5.2 ล้านตัน
2. การขยายการให้บริการขนส่งในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ โดยในปีนี้ บริษัทฯตั้งงบลงทุนไว้ที่ระดับ 235 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อรถบรรทุก เพิ่มขึ้นอีก 52 พ่วง ซึ่งทยอยรับมอบมาแล้วในช่วงต้นปี 2566 จำนวน 22 พ่วง เพื่อรองรับงานให้บริการขนส่งโลจิสติกส์ ทั้งสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ และยังมีการลงทุนขยายพื้นที่คลังจัดเก็บสินค้าและโรงงานคัดแยกหลังที่ 5 มูลค่า 50 ล้านบาท รวมถึงลงทุนในระบบบริหารจัดการ IT มูลค่า 10 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านโลจิสติกส์ สำหรับการตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้สูงขึ้น
3. การขยายการให้บริการในกลุ่มธุรกิจลิสซิ่ง โดยในปี 2565 บริษัทฯได้มีการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกให้กับพนักงานขับรถที่มีผลงานดีของบริษัทฯ ภายใต้โครงการ "เถ้าแก่น้อย" เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถเป็นเจ้าของรถบรรทุกเองได้ โดยในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกเช่าซื้อให้กับ พันธมิตรและ ผู้ร่วมโครงการ "เถ้าแก่น้อย" เพิ่มเป็น 500 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีการปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 50 ล้านบาท โดยเริ่มรับรู้รายได้แล้ว 0.5 ล้านบาท
และ 4. ในช่วงปลายปี 2565 ทาง AGE ได้มีการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจเทรดดิ้งสินค้าเกษตร ทำให้ ปีนี้จะมีการรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี โดยตั้งเป้ารายได้จากการจำหน่ายสินค้ามันสำปะหลัง อยู่ที่ 400 ล้านบาท หรือประมาณ 5 ล้านตัน
นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนการปรับประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการบริหารจัดการต้นทุนในด้านต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการดูแลบริหารจัดการความเสี่ยงของธุรกิจ และความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการ 18,815.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY) และมีอัตรากำไรสุทธิ 1,248 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.6 % ซึ่งผลการดำเนินงานดังกล่าวถือเป็นการทำสถิติออลไทม์ไฮ ขณะที่ปริมาณการขายถ่านหินรวมอยู่ที่ 4.1 ล้านตัน โดยแบ่งเป็นปริมาณการขายถ่านหินในต่างประเทศ ที่ 0.26 ล้านตัน และปริมาณการขายถ่านหินในประเทศ ที่ 3.8 ล้านตัน ส่วนรายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์อยู่ที่ 2,074 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7% (YoY) แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการกับกลุ่มบริษัทในเครือ AGE จำนวน 1,462 ล้านบาท และรายได้จากให้บริการกับกลุ่มลูกค้าภายนอกซึ่งรวมรายได้จากการขายน้ำมัน และสินค้าเกษตรอยู่ที่ 612 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาอนุมัติจ่ายปันผลงวดปี 2565 (ม.ค.-ธ.ค.65) เป็นหุ้นอัตรา10 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.05 บาทต่อหุ้น พร้อมจ่ายปันผลเป็นเงินสดอัตรา ในอัตราหุ้นละ 0.2256 บาท โดยกำหนดวันรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 15 มีนาคม 2566 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 14 มีนาคม 2566 และดำเนินการจ่ายปันผลในวันที่ 17 พฤษภาคม 2566