กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--สหมงคลฟิล์ม
นักแสดงร่างใหญ่ระดับฮอลลีวู้ด “นาธาน โจนส์” เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาผู้ชมชาวไทยเป็นอย่างดีจากบทคู่ต่อสู้ตัวฉกาจของ “จา พนม” ในภาพยนตร์ไทยระดับอินเตอร์เรื่อง “ต้มยำกุ้ง” เมื่อ 3 ปีที่แล้ว
มาปีนี้ เขากลับมาอีกครั้งกับการพลิกคาแร็คเตอร์มารับบทชายร่างใหญ่ใจเล็กที่ต้องมาเรียนรู้จากสองเด็กสาวในการที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยตนเองในภาพยนตร์รสแซบเรื่อง “ส้มตำ”
ได้เวลาที่จะไปทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้นกันแล้ว
ทักทายแฟนหนังชาวไทยกันหน่อย
สวัสดีครับ ผม “นาธาน โจนส์” ตอนนี้กำลังจะมีหนังไทยเรื่อง “ส้มตำ” เข้าฉาย มันเป็นหนังที่เยี่ยมมาก ๆ มีทั้งตลก, แอ็คชั่น, ดราม่าครบทุกรส เหมือนการนั่งรถไฟเหาะสำหรับทุก ๆ คน ที่จะได้ความรู้สึกทั้งตื่นเต้นและสนุกไปในคราวเดียวกัน
คุณเป็นคนที่ไหน
ออสเตรเลีย ซิดนีย์ครับ
พูดถึงงานหนังของคุณที่ผ่านมาหน่อย
หนังของผมที่ผ่านมาก็มีเรื่อง Troy ที่เล่นกับแบรด พิทท์, Fearless กับเจ๊ท ลี แล้วก็ ต้มยำกุ้ง ที่ต้องสู้กับโทนี่ จา แต่โชคร้ายหน่อยต้องถูกเค้าซ้อมตลอด แต่ครั้งหน้าผมจะอัดเค้าบ้างแล้วล่ะ (หัวเราะ)
นอกจากเล่นหนังแล้วคุณทำอย่างอื่นด้วยหรือเปล่า
อย่างที่ทราบกัน ผมเคยเป็นนักมวยปล้ำอาชีพในออสเตรเลียมาก่อนด้วย ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ “เม็กกะแมน” เป็นแชมป์ของสถาบันมวยปล้ำ WWA แล้วก็เรียนการเป็น Stuntman
จริง ๆ แล้วผมทำมาหลายอย่าง อย่างละนิดละหน่อย ก่อนที่จะเข้ามาเล่นหนังน่ะครับ ก็ได้เล่นหนังมา 8-9 เรื่องแล้วครับ
คุณเล่นเป็นใครในเรื่องนี้
ผมเล่นเป็น “บาร์นนี่” (Barney) คาแร็คเตอร์ก็ค่อนข้างบ้า ๆ นิดหน่อย ไม่ใช่สิ ไม่ใช่ ที่จริงแล้วคาแร็คเตอร์จะเป็นเหมือนเด็กมากกว่า ตัวโตแต่ใจเล็ก ไม่ค่อยสู้คน อยากให้ทุกคนดูแลเค้าดี ๆ เพราะไม่เคยโดนทำร้ายมาก่อน เป็นคนค่อนข้างบริสุทธิ์
ในเรื่องบาร์นนี่ก็จะเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวที่พัทยาแล้วก็ต้องไปข้องเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั้งร้ายและดี และเผอิญได้ไปกิน “ส้มตำ” ความเผ็ดร้อนก็เลยทำให้เขามีพลังขึ้นมา สามารถต่อสู้ได้ในทันที
ตัวละครในเรื่องนี้ เหมือนหรือต่างกับในเรื่อง” ต้มยำกุ้ง” ยังไง
ตรงข้ามกันเลยครับ ใน “ต้มยำกุ้ง” ผมเป็นนักฆ่าโรคจิต โหดร้าย บ้าคลั่ง แต่ในเรื่องนี้ผมเล่นเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนแอ ร้องไห้บ่อย กลัวโดนทำร้าย ถึงจะตัวใหญ่แต่ก็ไม่ค่อยสู้คน
แล้วคุณชอบแบบไหนมากกว่ากัน
ผมชอบทั้งสองตัวนะ ในเหตุผลที่ต่างกันไป อย่างในเรื่องนี้ ผมชอบความตลก ดูเปิ่น ๆ สนุกสนาน ความเป็นมิตรของตัวบาร์นนี่ที่มีต่อทุกคนก็น่าประทับใจครับ จะว่าไป บางทีคุณก็น่าจะได้บทที่เป็นคนดีบ้าง เลวบ้างปะปนกันไปในการแสดงนะครับ
คุณชอบเล่นบทร้ายหรือเปล่า
บทร้ายก็ดีนะครับ สนุกไปอีกแบบ
คุณเล่าเหตุการณ์ในกองถ่ายให้ฟังหน่อยได้ไหม เช่น ต้องรอนานหรือเปล่า...มีอะไรสนุก ๆ ที่ประทับใจบ้าง
ไม่เลยครับ เรื่องการรอนานในการถ่ายทำ ผมว่าการทำงานในกองถ่ายก็เป็นแบบนี้เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นทั้งในอเมริกาหรือออสเตรเลีย
ส่วนในกองถ่ายหนังไทยเรื่องนี้ ผมชอบที่จะโดนรุมอัดโดยเด็กเล็ก ๆ ผมไม่เคยโดนเด็กต่ำกว่า 10 ขวบรุมอัดมาก่อน สนุกมาก ๆ ผมชอบมาก ๆ ผมว่าทุกคนต้องหัวเราะ
ทำไมคุณเลือกที่จะทำงานกับกองถ่ายนี้
เค้าเลือกผมนะครับ ผมไม่ได้เป็นฝ่ายเลือก จริง ๆ แล้วผมต้องอ้อนวอนเค้ามากกว่า ให้ผมเล่นหนังเรื่องนี้เถอะ (หัวเราะ)
บทหนังเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ผมว่าบทหนังเรื่องนี้เหลือเชื่อมาก ๆ ดีมากด้วย ผมชอบบทเรื่องนี้มากครับ มันมีทั้งความสนุกสนาน ประทับใจ ตลกด้วย และที่ขาดไม่ได้คือแอ็คชั่นสนุก ๆ ครับ
คุณรู้สึกยังไงกับตัว “บาร์นนี่” ที่คุณรับบทในเรื่องนี้บ้าง
ก็ดีนะครับ อย่างที่บอกไปว่าผมชอบตัวละครตัวนี้ครับ เล่นแล้วสนุกดี
คุณรู้สึกว่าคุณเป็นบาร์นนี่จริง ๆ ไหม
จริง ๆ ผมว่า ผมมีส่วนคล้ายกับตัวบาร์นนี่อยู่ด้วยนะ ตรงที่เป็นคนสนุกสนาน เป็นมิตรกับทุกคน
คุณเคยเรียนการแสดงมาก่อนหรือเปล่า
ครับ ผมเคยเรียนการแสดงมาเมื่อ 2-3 ปีก่อน ในโรงเรียนสอนการแสดงที่ซิดนีย์นะครับ
สำหรับคุณแล้ว ฉากที่ยากที่สุดในเรื่องนี้คือฉากไหน
ฉากที่ต้องร้องไห้นี่ยากมากครับ ผมต้องเอานิ้วจิ้มตาตัวเองน้ำตาถึงจะไหลออกมาได้ (ยิ้มขำ) ผมไม่เคยได้เล่นบทแบบนี้มาก่อน นอกนั้นก็ไม่มีอะไรยากมากครับ
สำหรับนักมวยปล้ำแล้ว คุณต้องแสดงท่าทางแข็งแกร่ง โหดร้าย ซึ่งมาจากการฝึกฝนอย่างหนัก แต่การร้องไห้เป็นอะไรที่ผมต้องพยายามมาก ๆ เลยครับ
แล้วฉากไหนที่เล่นได้ง่าย สบาย ๆ เลยในเรื่องนี้
ฉากแอ็คชั่นครับ หลายคนคิดว่าบทบู๊หรือบทแอ็คชั่นเนี่ยจะยาก แต่สำหรับผมที่เป็นนักมวยปล้ำเนี่ย ฉากบู๊เลยง่ายสำหรับผมครับ
ฉากแอ็คชั่นในเรื่องนี้กับเรื่องอื่น ๆ ต่างกันยังไงบ้าง
ฉากแอ็คชั่นในเรื่องนี้ค่อนข้างเข้มข้น และดูสนุกมากครับ แต่ในหนังอเมริกัน จะเป็นเรื่องของการใช้มุมกล้องมาช่วยมากกว่า แต่แอ็คชั่นในเรื่องนี้จะสู้กันจริง ๆ ดูเหมือนจะอันตราย แต่ผมก็ชอบมาก เพราะมันสนุกกว่าครับ
คุณเคยกินส้มตำมาก่อนไหม ก่อนมาเล่นหนังเรื่องนี้
ไม่เคยกินมาก่อนเลยครับ
แล้วรู้สึกยังไงตอนได้กินครั้งแรก
ผมจะไม่กินมันอีกแล้ว ผมว่าผมอาจตายได้ ตอนผมกินเข้าไปรู้สึกเหมือคอเริ่มไหม้ รู้สึกได้ตั้งแต่คอไปจนถึงกระเพาะอาหารเลย แล้วผมก็เริ่มน้ำตาไหล ผมว่าผมตายแน่ ไม่มีการแสดงใด ๆ ทั้งนั้น คุณไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคการแสดงเลย นี่มันของจริงเลย
ความรู้สึกที่คุณมีต่อกองถ่ายเรื่องนี้
ชอบครับ ชอบทุก ๆ คน ทุกคนน่าชื่นชมมาก ใจดี มีน้ำใจ บรรยากาศดีมาก ๆ คนไทยเป็นอย่างนี้เสมอ เป็นคนดีมาก คงเป็นเพราะวัฒนธรรมไทยนั่นแหละ ผมว่า
มีปัญหาอะไรในการถ่ายทำบ้างไหม
ไม่มีเลยครับ ทุกอย่างดีมาก อาจจะสนุกมากไปด้วยซ้ำครับ
แล้วเรื่องการแสดงล่ะ
ก็มีบ้างนะครับ แต่ผมก็พยายามแก้ไขกันไป บางครั้งก็เช่น เด็ก ๆ ตื้นเต้นไปบ้างช่วงแรก ๆ จากนั้นก็ไม่มีอะไรครับ
แล้วเรื่องอากาศล่ะ
อากาศก็ค่อนข้างดีนะครับ เพราะส่วนใหญ่เราไปถ่ายทำกันที่พัทยาครับ
คุณรู้สึกยังไงกับการทำงานกับผู้กำกับบ้าง
ครับ เค้าเยี่ยมมาก ๆ เป็นผู้กำกับที่ดีมาก ๆ ใส่ใจกับทั้งเรื่องการแสดงและเรื่องภาพรวมต่าง ๆ ด้วย ร่วมงานกันแล้วรู้สึกดีครับ
รู้สึกยังไงกับกับเด็กๆ ทั้งสองคนที่ร่วมเล่นกับคุณในเรื่องนี้
เด็กทั้งคู่เยี่ยมมากครับ สนุกกันมาก โดยเฉพาะแคทที่เล่นแอ็คชั่นได้ดีมาก เกรซก็น่ารัก และพูดภาษาอังกฤษได้ดีด้วยครับ
แล้วการทำงานในเมืองไทยล่ะเป็นยังไง
ผมชอบเมืองไทย ชอบที่จะมาที่นี่ เป็นประเทศที่เยี่ยมมาก ผู้คนน่ารักมาก ผมชอบวัฒนธรรมไทย รู้สึกดีมากที่ได้อยู่ที่นี่นะครับ
คิดยังไงกับหนังเรื่องนี้
ผมชอบเรื่องนี้มาก ๆ มันมีทุกอย่างอยู่ในเรื่องนี้ ทั้งคอเมดี้ แอ็คชั่น ผจญภัย เหมือนรถไฟเหาะพาไปทุกที่อย่างที่ผมบอกไป เป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งสำหรับทุกคนครับ
เล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ย กับฉากที่ถ่ายทำวันนี้
ฉากวันนี้เหรอครับ เป็นฉากหลังจากที่ผมพังร้านอาหาร เพราะผมเผลอกินส้มตำเข้าไปแล้วเกิดเผ็ดร้อน ควบคุมตัวเองไม่ได้ เลยทำร้านพัง มาวันนี้ผมก็เลยต้องมาสร้างร้านอาหารขึ้นมาใหม่ แล้วร้านนี้ก็ไปได้ดี ทุกคนมีความสุข ถือว่าเป็นฉากที่มีความสุขฉากหนึ่งของหนังเรื่องนี้
แล้วรสชาติส้มตำล่ะเป็นยังไง
จริง ๆ แล้วมันก็อร่อยนะครับ แต่ผมไม่อยากจะกินอีกเท่านั้นเอง (หัวเราะ)