กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส
บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและระบบสื่อสารข้อมูลครบวงจร สรุปรายได้ครึ่งปีแรกรวม 8,457 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 37 % โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2548 มีรายได้รวมกว่า 4,221 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้น 20 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2547 คิดเป็นกำไรสุทธิ 115 ล้านบาท พร้อมประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรองรับการขยายตัวของธุรกิจอนาคต
นายธวัชชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ประจำปี 2548 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 4,221 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 20 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,512 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 115 ล้านบาท
“ในไตรมาสที่ผ่านมา แม้ภาวะเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย แต่ทุกสายธุรกิจของกลุ่มสามารถก็ยังคงมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สายธุรกิจมือถือและสื่ออินเตอร์แอ็คทีฟมีรายได้เพิ่มขึ้น 18 % และมีกำไรปกติจากการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มขึ้นถึง 25 % จากยอดขายมือถือและบริการคอนเท้นท์ที่เติบโตขึ้นทั้งในและต่างประเทศ, สายธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมซึ่งนำโดยบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) ทำรายได้เพิ่มขึ้น 16 % โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 22 % นอกจากนี้ในสายธุรกิจสื่อสารไอที โดยบริษัท สามารถคอมเทค จำกัด ก็สามารถสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นถึง 75 %เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ดังนั้นเมื่อสรุปภาพรวมผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมาจึงถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ” นายธวัชชัยกล่าว
อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจให้เกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อเตรียมรองรับการขยายตัวของกลุ่มสามารถสู่ธุรกิจใหม่ๆในอนาคต กลุ่มบริษัทสามารถจึงได้มีแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยจะมีการรวมสายธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมและไอทีเข้าไว้ด้วยกันภายใต้ชื่อสายธุรกิจICT Solutions & Services ในการนี้ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ขายหุ้นบริษัท สามารถคอมเทค จำกัดแก่บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) ในมูลค่าราว 876 ล้านบาท ทั้งนี้ สามารถเทลคอมจะเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 520 ล้านบาท เป็น 600 ล้านบาท และจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวจำนวน 80 ล้านหุ้นให้แก่สามารถ คอร์ปอเรชั่น เพื่อเป็นการชำระค่าหุ้นดังกล่าวบางส่วน ยิ่งไปกว่านั้น คณะกรรมการบริษัทสามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) ได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 2548 แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท
ในการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการสร้างความแข็งแกร่งให้กับ “กลุ่มสามารถเทลคอม” ในการก้าวสู่ความเป็นผู้นำทางด้านไอซีทีอย่างแท้จริง เพราะจะส่งเสริมให้เกิดการผนึกกำลังของบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในสายธุรกิจที่ใกล้เคียงกันในการบุกและขยายตลาด เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรและบุคลากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดต้นทุนในการบริหารและดำเนินงาน ตลอดจนเพิ่มความคล่องตัวในการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการนำเสนอ Total ICT Solutions แก่องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ด้วยศักยภาพในการให้บริการที่เพิ่มขึ้นนี้ ย่อมช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า นักลงทุนและผู้ถือหุ้นของบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) อย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น การจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่ยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการขยายงานสู่ธุรกิจในอนาคตของกลุ่มบริษัทสามารถ โดยจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารและการลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยจากการปรับโครงสร้างล่าสุด สายธุรกิจของกลุ่มสามารถ ประกอบด้วย
สายธุรกิจ ICT Solutions & Services ซึ่งพร้อมให้บริการ Total ICT Solutions แก่องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน นำโดยบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) และบริษัท สามารถ คอมเทค จำกัด
สายธุรกิจ Mobile Multi-media ครอบคลุมธุรกิจมือถือและสื่ออินเตอร์แอคทีฟ นำโดยบริษัทสามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน)
สายธุรกิจ International ครอบคลุมธุรกิจและการลงทุนในต่างประเทศ ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต อาทิ บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ GSM 900 ที่ประเทศกัมพูชา โดยบริษัท แคมโบเดีย สามารถคอมมิวนิเคชั่น จำกัด และศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชา โดยบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด
สายธุรกิจ Related Business ครอบคลุมธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไอซีทีโดยตรง อาทิ การผลิตและจำหน่ายเสาอากาศและจานดาวเทียมของบริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด และธุรกิจบริการ Call Center ของบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด
“ในปี 2548 นี้ บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและคาดว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 1.9 หมื่นล้านบาท โดยการเติบโตจะเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ของโครงการทางด้านสื่อสารโทรคมนาคมที่ต่อเนื่องต่างๆ และการเติบโตทางธุรกิจของสามารถ ไอ-โมบาย ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นจากยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะในต่างประเทศที่มียอดการเติบโตที่เห็นได้ชัด เช่น ในเวียดนาม, ศรีลังกา, บังคลาเทศ และมาเลเซีย นอกจากนี้ ด้วยแผนในการนำเสนอ แพคเกจคอนเท้นท์ใหม่ๆ พร้อมใช้บนมือถือ ก็จะช่วยเพิ่มรายได้ในครึ่งปีหลังให้กับไอ-โมบายได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มบริษัทสามารถยังคงมองหาโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างให้เกิดรายได้ที่มั่นคงต่อเนื่อง โดยในขณะนี้อยู่ในระหว่างการวิเคราะห์การลงทุนในสายธุรกิจพลังงานและจะมีการประกาศความชัดเจนในเร็วๆ นี้” นายธวัชชัย กล่าวในตอนท้าย
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ชัยวัฒน์ สิมะวัฒนา
พรพรรณ ฉวีวรรณ
จตุพล นาคนิ่ม
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด
โทร 0-2662-2266 ต่อ 237--จบ--