๑๗ เม.ย.๕๑ เสียชีวิต ๔๔ ราย สงกรานต์ ๗ วัน เสียชีวิต ๓๖๘ ราย

ข่าวทั่วไป Friday April 18, 2008 11:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--ปภ.
ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี ๒๕๕๑ แถลงสถิติอุบัติเหตุทางถนนในวันที่ ๑๗ เม.ย. ๕๑ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ๒๘๘ ครั้ง ผู้เสียชีวิต ๔๔ ราย ผู้บาดเจ็บ ๓๑๙ ราย รวมอุบัติเหตุสะสม ๗ วัน (๑๑ — ๑๗ เม.ย. ๕๑) มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น รวม ๔,๒๔๓ ครั้ง ผู้เสียชีวิต ๓๖๘ ราย ผู้บาดเจ็บ ๔,๘๐๓ ราย จำนวนผู้เสียชีวิต เพิ่มขึ้นกว่า ปี ๒๕๕๐ จำนวน ๗ ราย ร้อยละ ๑.๙๔ ศปถ. มีแนวคิดจะร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายกำหนดแนวทางการจำหน่ายสุราในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงรณรงค์ต่อเนื่องระยะยาว เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน โรงเรียน ตลอดจนจะได้ประสานให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับรถกระบะที่ตระเวนเล่นน้ำบนถนนทางหลวงแผ่นดิน อีกทั้งกำชับให้จังหวัดนำบทเรียนอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นพื้นที่ มาปรับแผนการดำเนินงาน ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาในพื้นที่ เพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
นายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ประธานแถลงข่าวสถิติผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี ๒๕๕๑ ในวันที่ ๑๗ เม.ย. ๕๑ ซึ่งรวบรวมโดยศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี ๒๕๕๑ ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ๒๘๗ ครั้ง ผู้เสียชีวิต ๓๖ ราย ผู้บาดเจ็บ ๓๑๐ ราย และเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ได้เกิดอุบัติเหตุใหญ่ขึ้นกับรถโดยสารไม่ประจำทาง ที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีสาเหตุมาจากคนขับหลับใน ทำให้มีผู้เสียชีวิต ๘ ราย ผู้บาดเจ็บ ๙ ราย ส่งผลให้สถิติอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นเป็น ๒๘๘ ครั้ง น้อยกว่าปี ๒๕๕๐ (๔๕๑ ครั้ง) จำนวน ๑๖๓ ครั้ง ร้อยละ ๓๖.๑๔ ผู้เสียชีวิต ๔๔ ราย มากกว่าปี ๒๕๕๐ (๔๓ ราย) จำนวน ๑ ราย ร้อยละ ๒.๓๓ ผู้บาดเจ็บ ๓๑๙ ราย น้อยกว่าปี ๒๕๕๐ (๕๑๒ ราย) จำนวน ๑๙๒ ร้อยละ ๓๗.๖๙ สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ ๒๗.๗๘ ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ ๘๑.๖๓ อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ ๔๐.๒๘ จุดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ทางตรง ร้อยละ ๖๑.๘๑ ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงพลบค่ำ เวลา ๑๖.๐๑ — ๒๐.๐๐ น. ร้อยละ ๒๗.๔๓ ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ มีอายุระหว่าง ๓๐ — ๓๙ ปี คิดเป็นร้อยละ ๑๗.๑๘ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก ราชบุรี จังหวัดละ ๑๓ ครั้ง จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ มี ๑๐ จังหวัด จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก จำนวน ๑๐ ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต รวม ๕๒ จังหวัด จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บมากที่สุด ได้แก่ พิษณุโลก ๒๒ ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ รวม ๑๑ จังหวัด ทั้งนี้ ทั่วประเทศมีการจัดตั้งจุดตรวจ รวม ๓,๐๓๖ จุด มีผู้ปฏิบัติงาน รวม ๘๙,๗๘๗ คน และได้เรียกตรวจยานพาหนะ ๕๙๗,๖๗๒ คัน พบผู้กระทำผิด รวม ๓๑,๓๑๔ คัน ส่วนใหญ่ถูกดำเนินคดีเนื่องจาก ไม่มีใบขับขี่มากที่สุด ๑๑,๗๑๕ คน
อุบัติเหตุทางถนนสะสม ๗ วัน (วันที่ ๑๑ — ๑๗ เม.ย. ๕๑) มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นรวม ๔,๒๔๓ ครั้ง น้อยกว่าปี ๒๕๕๐ (๔,๒๗๔ ครั้ง) จำนวน ๓๑ ครั้ง ร้อยละ ๐.๗๓ ผู้เสียชีวิต รวม ๓๖๘ ราย มากกว่าปี ๒๕๕๐ (๓๖๑ ราย) จำนวน ๗ ราย ร้อยละ ๑.๙๔ ผู้บาดเจ็บ รวม ๔,๘๐๓ ราย น้อยกว่า ปี ๒๕๕๐ (๔,๘๐๕ ราย) จำนวน ๒ ราย ร้อยละ ๐.๐๔ สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ ๔๐.๕๖ พฤติกรรมเสี่ยงสูงสุด ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ ๔๗.๑๓ เมาสุรา ร้อยละ ๓๓.๐๙ ยานพาหนะที่ประสบอุบัติเหตุมากที่สุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ ๘๑.๗๙ ถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ ๓๖.๓๐ ถนนกรมทางหลวง ๓๒.๔๕ โดยเฉพาะบริเวณทางตรง ร้อยละ ๕๗.๔๘ และช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ได้แก่ เวลา ๑๖.๐๑ — ๒๐.๐๐ น. ร้อยละ ๓๒.๒๔ ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่มีอายุ ๑๕ — ๑๙ ปี ร้อยละ ๑๗.๖๒ และ อายุ ๓๐ — ๓๙ ร้อยละ ๑๗.๒๗
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย ๑๗๖ ครั้ง รองลงมา ได้แก่ เพชรบูรณ์ ๑๕๙ ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก ๒๕ ราย รองลงมา ได้แก่ เชียงใหม่ ๑๔ ราย จังหวัดที่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต รวม ๖ จังหวัด ได้แก่ นครนายก สิงห์บุรี ยะลา กระบี่ ศรีสะเกษและยโสธร จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย ๑๘๓ ราย รองลงมา ได้แก่ เพชรบูรณ์ ๑๗๑ ราย
นายสหัส กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในภาพรวมที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี ๒๕๕๑ พบว่า เกิดจากการเมาสุราแล้วขับขี่รถจักรยานยนต์บนถนนสายรอง ได้แก่ ถนนของกรมทางหลวงชนบท ถนนในเขตหมู่บ้าน / อบต. ศปถ. จึงได้มีแนวคิดที่จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาความเป็นไปได้ในการกำหนดแนวทางการงดจำหน่ายสุราในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่มีสาเหตุมาจากคนเมาขับรถ รวมทั้งจะร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย รณรงค์ชี้แจงสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนถึงอันตรายจากการดื่มสุราแล้วขับขี่รถจักรยานยนต์ รวมถึงการไม่ซ้อนท้ายผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะนำไปสู่การลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์
สำหรับปัญหาการกระทำผิดกฎจราจรของเด็ก และเยาวชนที่มีอายุ ๑๕ — ๒๔ ปี ศปถ. จะได้ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยแพร่การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ ให้พ่อแม่ ผู้ปกครองได้รับทราบ รวมทั้งให้มีกระบวนการสร้างจิตสำนึก เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้เกิดขึ้นตั้งแต่ระดับบุคคล ครอบครัว โรงเรียน สถานที่ทำงาน และชุมชน อย่างต่อเนื่องและจริงจัง โดยจะมุ่งเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และ การปฏิบัติตามวินัยจราจร ส่วนปัญหาการเล่นน้ำสงกรานต์อย่างไม่เหมาะสม จนเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน ศปถ. จะได้ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รณรงค์สร้างแรงจูงใจในการเล่นน้ำสงกรานต์ตามประเพณีอันดีงามของไทย ที่สำคัญ จะได้ประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงยุติธรรม ออกมาตรการและบทลงโทษ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง กับรถกระบะที่ตระเวนเล่นสาดน้ำสงกรานต์ และสาดน้ำในลักษณะรุนแรงบนทางหลวงแผ่นดิน
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนน พบว่า ผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจากอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น อายุระหว่าง ๑๕ - ๑๙ ปี และกลุ่มคนวัยทำงานที่อายุระหว่าง ๓๐ - ๓๙ ปี ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์ และมักเกิดในช่วงเวลาพลบค่ำ บนเส้นทางสายตรง ของถนนสายรอง ได้แก่ ถนนของกรมทางหลวงชนบท และถนนในหมู่บ้าน / อบต. โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเมาแล้วขับ และมีพฤติกรรมเสี่ยงจากการไม่สวมหมวกนิรภัย ศปถ. จึงได้สั่งกำชับให้จังหวัดนำสถิติอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ และบทเรียนจากการดำเนินงาน ลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มาปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องเหมาะสมกับสภาพปัญหาในพื้นที่ เพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้นในระยะยาวต่อไป และสุดท้ายนี้ ในนามของ ศปถ. ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ อปพร. และผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน ที่ได้เสียสละเวลา และความสุขส่วนตัวในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ มาปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวก และสร้างความปลอดภัยในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ