ไทวัสดุ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ภายใต้ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล (CRC) เปิดศักราชการลงทุนปี 2566 เตรียมขยายไทวัสดุ 10 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ชูไตรมาสแรก บุกเปิดสาขาครบทุกภาค รังสิต โคราช กำแพงเพชร และภูเก็ต ภายในปี 2566 ตั้งเป้ามี 80 สาขาทั่วไทย สอดรับเป้าหมายของ CRC ที่คาดว่าจะสร้างรายได้รวมเติบโตกว่า 15% รับการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ จากดีมานด์การก่อสร้างที่อยู่อาศัยซึ่งคาดว่าจะส่งสัญญาณบวกให้กับธุรกิจ
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า ซีอาร์ซี ไทวัสดุ ตั้งเป้าสู่การเป็นต้นแบบการดำเนินธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านที่พร้อมส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพแบบครบวงจร รวมถึงร่วมเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามยุทธศาสตร์ของ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ที่พร้อมสร้างการเติบโตให้กับทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ เพื่อมุ่งสู่ The Next Sustainable Growth นำธุรกิจค้าปลีกเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน โดยไทวัสดุ ถือเป็นกลุ่มธรุกิจที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีส่วนแบ่งการตลาด (Market share) ในกลุ่ม Home & Garden specialist retailer เติบโตเพิ่มขึ้นจาก 4.3% ในปี 2555 เป็น 9.8% ในปี 2564 อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ของ HSBC Research ซึ่งในปี 2566 นี้ ทางไทวัสดุเอง ตั้งเป้ายอดขาย เติบโตที่ 15%
ในปี 2566 ไทวัสดุยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการเติบโตตามเป้าหมาย เตรียมขยาย 10 สาขาใหม่ทั่วประเทศ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง และเป็นพื้นที่ที่มีดีมานด์ด้านการก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการขยายของกลุ่มธุรกิจฮาร์ดไลน์ในเครือ (ไทวัสดุ, บีเอ็นบีโฮม, เพาเวอร์บาย) ซึ่งการเติบโตดังกล่าวได้รับอานิสงส์มาจากปัจจัยที่จะเป็นแรงหนุนให้ตลาดวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านเติบโตมาจากแนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2566 ที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทย จะเติบโตกว่า 4% ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการเติบโตทางเศษฐกิจ และอิทธิพลบวกจากภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ โดยในปีนี้จะเป็นการต่อยอดสาขาทั้งในรูปแบบมาตรฐาน (Red Format) และแบบไฮบริด ฟอร์แมท (Hybrid Format) โดยมีเป้าหมายที่จะขยายฐานผู้บริโภค เจาะกลุ่มเมืองท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เพื่อเป็นศูนย์สินค้าก่อสร้างและตกแต่งบ้านครบวงจร โดยในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2566 นี้ได้เปิดสาขาไปแล้ว 2 แห่ง ได้แก่
- ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขารังสิตคลอง 4 ซึ่งเป็นการรวมตัวระหว่าง ไทวัสดุและบีเอ็นบี โฮมในรูปแบบไฮบริด พัฒนาขึ้นจากความต้องการของผู้บริโภคที่เลือกหาซื้อทั้งซื้อวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านครบจบในที่เดียว ตั้งอยู่บนพื้นที่ใจกลางรังสิตกว่า 20,000 ตร.ม และมีสินค้าที่ครบครันกว่า 30,000 รายการ โดยการเปิดสาขารังสิต คลอง4 มีเป้าหมาย เพื่อรองรับ การขยายตัวอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพฯ โซนเหนือมีบริการสำคัญ อาทิ โฮมเซอร์วิส การบริการ ออกแบบ ติดตั้ง ซ่อมแซม จากทีมวีฟิกซ์ ทีมช่างมืออาชีพ ที่ได้มาตรฐาน คุณภาพและบริการ
- ไทวัสดุ สาขาโคราช หัวทะเล ในรูปแบบ Red Format นับเป็นสาขาที่ 67 ของประเทศ และสาขาที่ 3 ของจังหวัดนครราชสีมา ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 17,000 ตร.ม. เพื่อรองรับตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดที่มีอสังหาริมทรัพย์มากที่สุดในภาคอีสาน รวมทั้งการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง บนพื้นที่ประตูอีสานให้ทันกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
โดยในเดือนมีนาคมนี้ ไทวัสดุเดินหน้าเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา ได้แก่ ไทวัสดุ สาขากำแพงเพชร และไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาภูเก็ต อ.ฉลอง ถือว่าไตรมาสแรกของปี ไทวัสดุ รุกเปิดไปแล้วถึง 4 สาขา ทุกภาคทั่วไทย ทั้ง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ โดยในปี 2566 ไทวัสดุตั้งเป้ามีสาขารวม 80 สาขา ครอบคลุมทุกพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ ซึ่งการที่ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมธุรกิจก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้านที่ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ที่มีการปรับตัวธุรกิจให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในมิติหลากหลายยิ่งขึ้น และยังมุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่งให้พันธมิตรทางธุรกิจเติบโตไปด้วยกัน ซึ่งถือเป็นการเสริมทัพให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่ง พร้อมส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพแบบครบวงจร" นายสุทธิสาร กล่าวปิดท้าย
ติดตามข้อมูลข่าวสาร พร้อมรายละเอียดโปรโมชัน เพิ่มเติม ได้ที่ www.thaiwatsadu.com Facebook Fanpage: Thai Watsadu และ ไลน์ไอดี @Thaiwatsadu หรือ โทร. 1308