ผู้มีรายได้น้อยเขตภาคอีสาน ฝึกทักษะด้านดิจิทัล นำสินค้าพื้นบ้านภูมิปัญญาท้องถิ่นขายบนโลกออนไลน์ กระแสตอบรับสุดฮอต เพิ่มรายได้ ปรบมือให้รัฐ จัดเครื่องมือทำกินส่งเสริมอาชีพอิสระ หวังก้าวผ่านความยากจน
นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า จากการดำเนินโครงการพัฒนาทักษะของแรงงานอิสระสู่ยุค 4.0 ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่ตุลาคม 2565 ผ่านมาแล้ว 6 เดือน ดำเนินฝึกทักษะให้แรงงานกลุ่มนี้ไปแล้วกว่า 12,000 คน จากเป้าหมายดำเนินการทั่วประเทศ 31,500 คน พร้อมกับมอบเครื่องมือทำกินให้แก่ผู้ที่ผ่านการฝึกด้วย มูลค่าไม่เกิน 4,000บาทต่อคน ซึ่งได้รับความสนใจจากแรงงานที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นอย่างมาก หลักสูตรที่ได้รับความสนใจ ในเขตภาคอีสานคือการขายสินค้าออนไลน์ การตัดเย็บเสื้อผ้า บาริสต้ามืออาชีพและหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับด้านอาหาร รวมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรด้วย โดยแต่ละภาคให้ความสนใจตามลักษณะของการประกอบอาชีพเฉพาะ และมีเอกลักษณ์โดดเด่นประจำภาค จากการรายงานผล ผู้มีรายได้น้อยให้ความสนใจการฝึกเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าออนไลน์เป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแต่ละพื้นที่จะมีสินค้าประจำท้องถิ่นต้องการเพิ่มช่องทางการขายให้กระจายสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าให้กว้างขวางมากขึ้น อีกทั้ง การขายสินค้าออนไลน์ในปัจจุบันเป็นที่นิยม สามารถช่วยให้ผู้ขายและผู้ซื้อพบกันโดยไม่ต้องเดินทางมาซื้อถึงท้องถิ่น ดังนั้น การขายสินค้าออนไลน์จึงเป็นหลักสูตรฮอต ที่ช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้นได้ดีมาก
นางนภัสสร ประภา อายุ 56 (คุณหวี) ผู้ผ่านการฝึกจากสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานบุรีรัมย์ (สนพ.บุรีรัมย์) เล่าว่า มีอาชีพทอผ้าขายและรับนวดตามหมู่บ้าน เคยเห็นการขายของออนไลน์ แบบไลฟ์สด จึงสนใจอยากทำเป็นบ้าง จะได้เอาผ้าทอในชุมชนมาขายออนไลน์ เพราะต้องการให้มีลูกค้ามากขึ้น ปกติขายได้เพียงตามตลาดนัดลูกค้ามีเพียงคนในพื้นที่ใกล้เคียงและภายในจังหวัดเท่านั้น เมื่อได้มาอบรมรู้สึกดีใจมาก ทำให้รู้วิธีการขายบนออนไลน์ การถ่ายภาพสินค้า ได้เทคนิคในการขายสินค้า เช่น การทำโปรโมชั่น วิธีจูงใจลูกค้า เป็นต้น และช่วงอบรมได้ทดลองขายของด้วย ทำให้เข้าใจถึงวิธีการขายออนไลน์มากขึ้น ที่ดีใจที่สุดคือ รัฐบาลให้ชุดอุปกรณ์ที่จำเป็นในการไลฟ์ขายสินค้าด้วย ถ้าให้ไปหาซื้อเองก็ไม่มีเงินไปลงทุนและเลือกซื้อไม่เป็น จึงเป็นโครงการที่ดีมาก ให้ทั้งความรู้และให้เครื่องมือประกอบอาชีพช่วยคนจนอย่างเราให้มีอาชีพได้จริง "ขอบคุณรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานที่ทำให้มีโครงการนี้ค่ะ" คุณหวีกล่าว
ส่วนนางสาวกัญญารัตน์ รัตนา อายุ 47 ปี (ปูเป้) เป็นผู้ผ่านการฝึกการประกอบอาหารจาก สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 38 ศรีสะเกษ เล่าว่า เป็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่ง เปิดร้านที่บ้านของตนเอง ทราบข่าวว่ามีฝึกอบรมให้กับคนมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และหลักสูตรตรงกับที่ตนเองสนใจ เพราะจะได้ทำอาหารในเมนูอื่นขายให้กับลูกค้าได้มากขึ้น เช่น ราดหน้า ผัดไทย ข้าวมันไก่ อาหารประเภทยำ นอกจากนี้ยังคิดจะทำเป็นข้าวกล่องขายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตนเองด้วย ปกติมีรายได้ประมาณ 500-600 ยามต่อไป เมื่อมีเมนูอาหารมากขึ้นคิดว่าต้องมีลูกค้าเพิ่มขึ้นแน่นอน และรายได้ก็จะเพิ่มขึ้น ประมาณ 700 -1000 บาท จึงขอขอบคุณสพร.38 ศรีสะเกษและรัฐบาล ที่นำโครงการดีๆ แบบนี้เข้ามาให้และเห็นความสำคัญของคนในชุมชน เช่นเดียวกับนางสาวขวัญใจ ขำกัน อายุ 55 ปี เป็นแม่ค้าขายส้มตำ ผ่านการอบรมการประกอบอาหารจาก สนพ.38 ศรีสะเกษ บอกว่า ดีใจที่ได้เข้าอบรม เพราะเมนูที่อบรมนั้น สามารถเอามาทำขายรวมกับการขายส้มตำได้ เช่น หอยทอด ผัดไทย อีกทั้ง คนในท้องถิ่นนิยมสั่งมารับประทานด้วย สำหรับเครื่องมือที่หน่วยงานจะซื้อให้นั้น ตนเองมองว่า เป็นสิ่งที่ดี เหมาะกับคนที่กำลังจะเริ่มต้นจะได้มีเครื่องมือทำกิน แต่สิ่งสำคัญที่เข้ามาอบรมคือทุกคนต้องการความรู้มากกว่า "อยากให้มีโครงการฝึกอบรมแบบนี้อย่างต่อเนื่อง ขอบคุณรัฐบาลที่ไม่ทิ้งคนจน" คุญขวัญกล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้มีบัตรบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่สนใจ สามารถติดต่อได้ที่ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามเพิ่มเติมที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4