ราคาและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น กระทบบรรยากาศการลงทุนในตลาดอสังหาฯ เอเชียแปซิฟิก

ข่าวอสังหา Tuesday March 21, 2023 16:33 —ThaiPR.net

ราคาและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น กระทบบรรยากาศการลงทุนในตลาดอสังหาฯ เอเชียแปซิฟิก

นักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกตระหนักถึงปัญหาความท้าทายต่างๆ ที่ต้องเผชิญในปี 2566 โดยเฉพาะความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยและราคาซื้อขาย ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นตัวแปรหลักที่จะมีผลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับลงทุนซื้ออาคาร/โครงการอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียแปซิฟิก

ผลสำรวจความคิดเห็นนักลงทุนทั่วโลกโดยเจแอลแอลในรายงานที่มีชื่อว่า Asia Pacific Investor Sentiment Barometer 2023 เผยว่า 78% ของนักลงทุนมองว่าความไม่แน่นอนของทิศทางราคาซื้อขาย เป็นความท้าทายใหญ่ที่สุดในการกำหนดแผนการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์สำหรับปีนี้ และ 70% ของนักลงทุนยังเห็นด้วยว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่นอกจากยากจะคาดเดาแล้ว ยังมีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศอีกด้วย เป็นความท้าทายที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงทุน

การสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้ ยังเผยให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในหนึ่งประเด็น โดยในขณะที่การสำรวจเมื่อต้นปี 2565 พบว่า 82% ของนักลงทุนมองว่า การแข่งขันกันเพื่อแย่งซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในความท้าทาย แต่จากผลการสำรวจของปีนี้ มีนักลงทุนเพียง 9% เท่านั้นที่ยังคงมีความกังวลในประเด็นนี้

แม้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางการปรับตัวขึ้นของดอกเบี้ยและราคาขาย มีแนวโน้มที่จะทำให้การลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้มีปริมาณปรับตัวลดลง แต่โดยรวมแล้ว นักลงทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกในระยะยาว โดยได้แสดงความเห็นว่า การปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน แต่ไม่ถึงกับถอนการลงทุน

60% ของนักลงทุนที่ร่วมการสำรวจความคิดเห็น เชื่อว่า ปีนี้จะมีการลงทุนน้อยกว่าปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับการประมาณ์การของเจแอลแอล ที่ระบุว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา เอเชียแปซิฟิกมีการลงทุนซื้อขายอาคาร-โครงการอสังหาริมทรัพย์มูลค่ารวม 1.29 แสนล้านดอลลาร์ และคาดว่าปีนี้มูลค่าจะลดลงไปอีกราว 5-10%

นายร็อดดีย์ อลัน ประธานบริหารฝ่ายวิจัยภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า "นักลงทุนเตรียมพร้อมปรับแผนการลงทุนในปีนี้ ตามสถานการณ์ความท้าทายที่เกิดขึ้นทั่วโลกเกี่ยวกับเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลาง"

อย่างไรก็ดี การใช้ความระมัดระวังมากขึ้น ไม่ได้หมายความว่า นักลงทุนหมดความเชื่อมั่นในระยะยาวสำหรับการลงทุนในภูมิภาคนี้ แต่เป็นเรื่องของความจำเป็นที่จะต้องปรับวิธีการ จังหวะเวลา และประเภทของสินทรัพย์ที่จะเข้าลงทุนเพิ่มในระยะต่อไปของปีนี้"

ดังนั้น สำหรับปีนี้ นักลงทุนจึงกำลังพิจารณาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และระดับความเสี่ยงที่จะสามารถยอมรับได้ ทั้งนี้ พบว่า 64% ของนักลงทุนเน้นสินทรัพย์ที่สามารถเข้าซื้อและลงทุนสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 53% ในการสำรวจเมื่อปีที่แล้ว การสร้างมูลค่าเพิ่ม ได้แก่ การซื้ออาคารเก่าหรืออาคารเกรดรองที่สามารถลงทุนปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้น หรือยกระดับมาตรฐานให้เป็นอาคารเขียว ตลอดรวมไปจนถึงการเข้าซื้อโรงแรมเพื่อปรับเปลี่ยนเป็นอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าในหัวเมืองที่มีที่พักอาศัยไม่เพียงพอรองรับความต้องการของผู้เช่า

ในส่วนของประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่นักลงทุนวนใจซื้อ พบว่า นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุดแก่อสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มโลจิสติกส์ (โกดัง/คลังสินค้า) ซึ่งเป็นที่ต้องการสูงของผู้เช่าและมีค่าเช่าปรับสูงขึ้น โดย 64% ของนักลงทุนที่เข้าร่วมการทำแบบสำรวจมีแผนที่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ในปีนี้

มีนักลงทุน 46% ที่คาดว่า จะลงทุนซื้ออพาร์ตเม้นท์ให้เช่ามากขึ้น

โรงแรมเป็นอสังหาริมทรัพย์อีกประเภทหนึ่งที่มีแนวโน้มได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น หลังมีการยกเลิกมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าออกประเทศและภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว โดย 32% ของนักลงทุน คาดว่าจะมีการลงทุนซื้อโรงแรมมากขึ้นในปีนี้

ในสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอน นักลงทุนสนใจการลงทุนในตลาดที่มีเสถียรภาพกว่า อาทิ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ โดย 68% ของนักลงทุนให้ความสนใจลงทุนในญี่ปุ่น และ 60% สนใจสิงคโปร์ ทั้งนี้ โตเกียวมีแนวโน้มที่จะเป็นหนึ่งในตลาดที่มีมูลค่าการลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์สูงสุดในปีนี้

นายสจ๊วต โครว์ ซีอีโอภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกดูแลหน่วยธุรกิจบริการตลาดทุน เจแอลแอล กล่าวว่า "นักลงทุนที่เราพูดคุยด้วยในการสำรวจความเห็นครั้งนี้ ส่วนใหญ่แสดงความสนใจลงทุนซื้ออสังหาทรัพย์ในตลาดที่มีเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว รวมถึงตลาดที่ตนเองเคยเข้าไปลงทุนมาก่อน นอกจากนี้ เรายังคาดด้วยว่า ความไม่แน่ใจในระดับที่เหมาะสมสำหรับการซื้อขาย ผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และอัตราเงินเฟ้อ จะยังคงเป็นประเด็นที่นักลงทุนให้น้ำหนักสูงในการตัดสินใจลงทุนใดๆ ต่อไปในปีนี้"

เกี่ยวกับการสำรวจความคิดเห็น

เจแอลแอลได้สำรวจความคิดเห็นให้ผู้บริหารระดับผู้นำจากบริษัทและองค์กรที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในระดับโลกและระดับภูมิภาค เกี่ยวกับแผนการ กลยุทธ์ และทัศนคติเกี่ยวกับแนวโน้มทั่วไปในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์สำหรับปี 2566 นี้ โดยกึ่งหนึ่งของผู้เข้าร่วมทำแบบสำรวจ แสดงตนว่าเป็นผู้จัดการการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และ/หรือการลงทุนในหุ้นของบริษัทผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ และเป็นหนึ่งในกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์และผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของโลก ส่วนที่เหลือเป็นนักลงทุนที่พอร์ตการลงทุนที่มีความหลากหลาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ