กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
ผู้บริหาร บมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์พาร์ท คาด SPPT-W เข้าเทรดได้ช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้ เชื่อจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและธุรกิจเติบโตโดดเด่น จะทำให้ SPPT ดึงดูดความสนใจนักลงทุนซื้อขายหุ้นคึกคักมากขึ้น ย้ำเป้าหมายรายได้ปีนี้วิ่งแตะ 1,000 ล้านบาท ด้านที่ปรึกษาทางการเงินมองปัจจุบันหุ้นขนาดกลางและเล็กกำลังมาแรง ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้หุ้นแม่อีกทาง
นายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์พาร์ท(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SPPT เปิดเผยถึงความคืบหน้าของใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (SPPT-W ) ว่าหลังจากที่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2550 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2550 อนุมัติให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญของบริษัท จำนวนไม่เกิน 62,500,000 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่าในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2551 เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2551 ได้มีมติอนุมัติให้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการได้รับการจัดสรร
ใบสำคัญแสดงสิทธิแก่ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นวันที่ 8 พฤษภาคม 2551 คาดว่า SPPT-W จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมนี้ โดยมั่นใจว่าจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง น่าจะทำให้ SPPT-W ได้รับความสนใจจากนักลงทุน และส่งผลให้การซื้อขายของหุ้น SPPT ในกระดานคึกคักตามไปด้วย
"เชื่อว่าปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท และแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง น่าจะทำให้วอร์แรนต์ที่จะออกมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้การซื้อขายหุ้นของบริษัทคึกคักมากขึ้น โดยในปีนี้ยังมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตแตะ1,000 ล้านบาท ไม่รวมในส่วนของบริษัทย่อย ส่วนแนวโน้มยอดขายไตรมาส 1/51 คาดว่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 1/50 และไตรมาส 4/50 เนื่องจากที่ผ่านมามียอดคำสั่งซื้อชิ้นส่วนเพื่อนำไปประกอบ Hard Disk และ Non Hard Disk เพิ่มมากขึ้น และไตรมาส 2/51 จะมีการติดตั้งเครื่องแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันเครื่องแรกที่จังหวัดระยองทำให้บริษัทมีการรับรู้รายได้จากการจำหน่ายเครื่องจักรนี้ด้วย"
นายประพจน์ กล่าวอีกว่าการออก SPPT-W ในครั้งนี้ เพื่อรองรับแผนการลงทุนในอนาคต เนื่องจาก SPPT-W มีอายุ 3 ปี สามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ ครั้งแรกได้ตั้งแต่ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 ที่ราคาแปลงสภาพหุ้นละ 3.75 บาท ซึ่งคาดว่าจะได้เงินจากการใช้สิทธิแปลงสภาพประมาณ 235 ล้านบาท มีแผนจะนำไปลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับ HDD และ Non- HDD
นายวิชา โตมานะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน คาดว่าใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SPPT-W จำนวน 62.50 ล้านหน่วย จะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดได้ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมนี้เช่นกัน หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ได้ อนุมัติให้ Filing มีผลใช้บังคับ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2551 ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีประกอบกับช่วงนี้หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ ดังนั้นคาดว่าจะทำให้สภาพคล่องของหุ้น SPPT คึกคักดีขึ้นด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย) 02-554-9396 , 085-133-0184