กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
ก.ล.ต. อนุมัติ บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ "สุพันธุ์ มงคลสุธี" คาดเริ่มกระจายหุ้น IPO จำนวน 180 ล้านหุ้น ได้ภายในเดือน พ.ค.นี้ เชื่อได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคับคั่ง เหตุเป็นบริษัทฯพื้นฐานแกร่ง แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แถมภาวะตลาดฯเป็นใจเม็ดเงินนอกเริ่มไหลเข้ารอบใหม่ เผยเตรียมนำเงินที่ได้ไปเป็นเงินหมุนเวียนในการขยายธุรกิจทั้งหมด มั่นใจเข้าซื้อขายได้ทัน Q2/51
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่อประชาชน (IPO) และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญและหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิต่อกรรมการและพนักงานของ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แล้ว เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2551 ดังนั้น จึงคาดว่าบริษัทฯจะสามารถกระจายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปได้ในเดือนพฤษภาคมนี้ และคาดว่าหุ้น IPO ของบริษัทฯ จะเข้าทำการซื้อขายได้ภายในไตรมาสที่ 2/2551
“ ก.ล.ต. ได้อนุมัติแบบไฟลิ่งของ ซินเน็ค (ประเทศไทย) เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา คาดว่าจะเริ่มกระจายหุ้นได้ประมาณเดือน พ.ค. ตามแผนที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งเรามั่นใจว่าหุ้นซินเน็ค (ประเทศไทย) จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก เนื่องจากธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง เช่นเดียวกับธุรกิจที่เติบโตและมีผลประกอบการที่เป็นกำไรติดต่อกันถึง 19 ปี ซึ่งปัจจุบันมียอดขายมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ถือเป็นผู้ประกอบการจัดหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ ระบบสารสนเทศ ที่มียอดขายสูงสุดในประเทศไทย ประกอบกับภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์คึกคักขึ้นเป็นอย่างมาก จากเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง เชื่อว่าจะเพิ่มความสนใจของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี"
นายสุพันธุ์ กล่าวอีกว่า บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 500 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียน 705 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่จำนวน 205 ล้านหุ้น ที่ราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็นสัดส่วนการขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือ IPO จำนวน 180 ล้านหุ้น ส่วนที่เหลืออีก 25 ล้านหุ้น รองรับการแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด ที่จะออกให้กับพนักงานของบริษัท (ESOP) จำนวน 25 ล้านหน่วย
สำหรับ เม็ดเงินที่ได้จากการขายหุ้นในครั้งนี้ จะนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจของบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งจำนวน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายสูงสุดในการก้าวสู่การเป็น One Stop Shopping ที่รวบรวมสินค้าไอทีคุณภาพระดับโลกไว้แบบครบวงจร โดยมีพันธสัญญาที่ชัดเจนในการเป็นพันธมิตรธุรกิจที่ดีและยั่งยืนกับผู้ผลิตต่างๆ รวมถึงการบริการที่มีประสิทธิภาพแก่ผู้บริโภค อีกทั้งมุ่งมั่นในการพัฒนาและบริหารช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพ พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์แบบมืออาชีพ และลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการบริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำระดับโลก
ปัจจุบัน บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ ระบบสารสนเทศ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้ามากกว่า 50 ตราสินค้า จากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก และมีฐานลูกค้าทั้งหมดมากกว่า 5,000 ราย แบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 8 กลุ่มธุรกิจ คือ 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์ชิ้นส่วน (Component Product Group: CPG) ประกอบไปด้วยสินค้าหลัก เช่น Hard Disk Drive, CPU, Motherboard, DRAM, CD-ROM และ DVD-RW เป็นต้น จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Seagate , Western Digital, Intel , Kingston และ LG
2.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทวัสดุสิ้นเปลือง (Consumables & Supply Group: CSG)เช่น หมึกพิมพ์ โทนเนอร์ และแผ่นดิสค์ เป็นต้น โดย จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Fullmark, Canon, Epson, HP, Fuji Xerox, Samsung และ Brother 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์เพื่อการพิมพ์ (Image & Printing Product Group: IPG) เช่น เครื่องพิมพ์แบบ Inkjet, เครื่องพิมพ์แบบ Laser และ เครื่องพิมพ์แบบ All-In-One โดยบริษัทฯ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ HP, Canon, Epson, Brother, Samsung และ Fuji Xerox
4.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทเน็ทเวิร์ก (Network Product Group: NPG) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบเน็ทเวิร์กซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าหลัก เช่น Switch, UPS, Server, Network Cabling System, Wireless LAN, Hub และ Router โดยจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ 3COM, Compex, Planet, APC, AMP และ Cisco 5.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์แสดงผลข้อมูล (Display Product Group: DPG) เช่น จอภาพ และเครื่องฉายภาพสไลด์ เป็นต้นโดย จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Samsung, Phillips, Benq, EIZO, Lemel
6.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทชุดคอมพิวเตอร์ประกอบเสร็จและกึ่งเสร็จ (System Product Group: SPG) ประกอบไปด้วยสินค้าหลัก เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา (Notebook) โดยจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Asustek และ BenQ และ เครื่องคอมพิวเตอร์แบบสั่งประกอบ (CTO: Configuration-to-Order) มีสินค้าภายใต้ตราสินค้า Lemel ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เอง
7.กลุ่มผลิตภัณฑ์ MCE (Multimedia Consumer Electronic Product Group: MCE) อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งใช้สื่อหลายชนิดในคอมพิวเตอร์ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าหลัก เช่น USB Flash Drive, Flash Card, MP3, เครื่องฉายภาพ (Projector), อุปกรณ์ GPS, และโทรศัพท์ GPS + PDA โดยบริษัทฯ เป็นผู้นำเข้าและผู้แทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือแบบ GPS + PDA ของ Mio แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และ ยังจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Kingston, Pretec, Lemel, Imation และ Adata 8.กลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์ (Software Product Group: SWG) ประกอบไปด้วย ซอฟท์แวร์ควบคุมจัดการระบบการทำงานสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ OEM, และซอฟท์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายคอมพิวเตอร์จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Microsoft, Novell, Autodesk, Trend Micro, Computer Associates
ในปี 2550 ซินเน็ค (ประเทศไทย) มีรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 139.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ร้อยละ 34.51 กำไรสุทธิที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจาก มียอดการจำหน่ายสินค้าที่มีกำไรขั้นต้นสูงเพิ่มขึ้น จากกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ชิ้นส่วน เน็ทเวิร์ก และกลุ่มชุดคอมพิวเตอร์ประกอบเสร็จและกึ่งเสร็จ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ : คุณสิริน วิวัฒน์เจริญพงศ์ : โทร089-7286389