นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม.กล่าวกรณีแพทย์เตือนการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ หลังสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลายว่า สนพ.ได้จัดทีมเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์การติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยสรุปข้อมูลสถานการณ์รายงานผู้บริหารทุกวัน รวมทั้งสั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดดำเนินการตามแนวทางเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หรือป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรง ขณะเดียวกันได้เตรียมมาตรการเฝ้าระวัง พร้อมจัดทำแนวทางควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ รวมถึงภัยสุขภาพต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
โดยสั่งการให้ทุกโรงพยาบาลในสังกัด กทม.เฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาด รวมถึงวินิจฉัยและให้การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางการรักษาของโรค และจัดการสำรองยาให้เพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วย พร้อมจัดเตรียมวัคซีนป้องกันควบคุมโรค ได้แก่ โรคหัด โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันจากเชื้อไวรัสให้กับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งมอบหมายกลุ่มงานอนามัยชุมชนของโรงพยาบาลในสังกัดทั้ง 11 แห่ง ให้บริการเชิงรุก เช่น จัดกิจกรรมและนิทรรศการให้ความรู้การดูแลและป้องกันสุขภาพของตนเองแก่ประชาชนที่มารับบริการและประชาชนในพื้นที่โดยรอบโรงพยาบาล รวมทั้งแนะนำให้ผู้ใหญ่เข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้น ได้พัฒนารูปแบบ "คลินิกวัคซีนผู้ใหญ่" ในโรงพยาบาลสังกัด กทม. ซึ่งที่ผ่านมาได้เปิดให้บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ วัคซีนโควิด โรคคอตีบ(dT) บาดทะยัก โรคหัด หัดเยอรมัน เป็นต้น เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคที่มีความจำเป็น โดยเปิดให้บริการในแผนกอายุรกรรมและเป็นไปตามสิทธิของผู้ป่วย เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ลดป่วยและลดโรคให้ประชาชน ซึ่งสามารถเข้าถึงวัคซีนตามสิทธิประโยชน์ของตนเอง และเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในกลุ่มผู้ใหญ่ เนื่องจากภูมิคุ้มกันของร่างกายจากการได้รับวัคซีนในวัยเด็กจะลดลงเมื่อสูงวัยขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคนิวโมคอคคัส ไข้หวัดใหญ่ คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก รวมถึงไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งอาจนำไปสู่โรคมะเร็งตับได้ ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดการให้บริการคลินิกวัคซีนผู้ใหญ่ทั้ง 11 โรงพยาบาลสังกัด กทม.ได้ที่ https://shorturl.asia/Qs5EL