ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กำไรสุทธิ 1,030 ล้านบาทไตรมาส1/2551 เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 21, 2008 17:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/2551 เป็นไปตามแผนงาน โดยตามงบการเงินรวม ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงาน (ก่อนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและภาษี) จำนวน 2,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และหลังตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 1,591 ล้านบาท ธนาคารมีกำไรสุทธิ 1,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2550
ธนาคารกรุงศรีอยุธยามีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 67% แม้ว่าในไตรมาสนี้จะต้องทำการบันทึกขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของตราสาร Collateralized Debt Obligations (CDO) ที่ธนาคารลงทุนประเภทถือจนครบอายุ รวม 85 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา อีก 690 ล้านบาท หรือ 26% โดยรายการหลักที่ส่งผลให้การดำเนินงานปรับปรุงดีขึ้นจากไตรมาสก่อนได้แก่ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 12% รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 4% และรายจ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 7% และในไตรมาสนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 1,591 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 538 ล้านบาทในไตรมาส 4/2550 สะท้อนแผนของธนาคารในอันที่จะเร่งขจัดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของสัดส่วน สินเชื่อเพื่อรายย่อยจาก 22% เมื่อสิ้นปี 2550 เป็น 34% ณ สิ้นไตรมาส 1/2551 โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเข้าซื้อธุรกิจบริษัท จีอี แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (GECAL) ซึ่งเสร็จสมบูรณ์เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
หลังการเข้าซื้อธุรกิจ GECAL ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 725,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 จำนวน 72,600 ล้านบาท หรือ 11% มีเงินให้สินเชื่อรวม 538,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 88,400 ล้านบาท หรือ 20% เงินฝากมีจำนวน 518,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18,900 ล้านบาท หรือ 4% และธนาคารยังคงมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ในระดับที่แข็งแกร่งคือ 17.8% โดยเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier 1) 13.5%
นายตัน คอง คูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2551 เป็นที่น่าพอใจทั้งด้านการเงินและด้านอื่น ๆ โดยธนาคารได้เข้าซื้อกิจการ GECAL เสร็จสมบูรณ์ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดที่เริ่มส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานของธนาคารตามแผนที่วางไว้ ในส่วนของการขยายธุรกิจภายในธนาคารเองหรือการเติบโตจากธุรกรรมปกติ ก็สามารถขยายสินเชื่อสุทธิได้กว่า 10,700 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ในส่วนของความจำเป็นที่ต้องทำการบันทึกมูลค่ายุติธรรม (mark-to-market) สำหรับการลงทุนใน CDO ที่ธนาคารถืออยู่ซึ่งไม่ได้เป็นการลงทุนในสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (sub-prime mortgage) เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น เชื่อว่าจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อธนาคารชั่วคราวเท่านั้น โดยธนาคารน่าจะสามารถบันทึกผลขาดทุนที่ได้ตั้งไว้กลับคืนเป็นรายได้ก่อน CDO ครบอายุในปี 2555 ทั้งนี้ จะเห็นว่าถึงแม้ธนาคารจะต้องบันทึกขาดทุนจากการ mark-to-market ถึง 690 ล้านบาท ธนาคารก็ยังสามารถรายงานผลการดำเนินงานที่ปรับปรุงดีขึ้นจากไตรมาสก่อนค่อนข้างมาก”
นายตัน คอง คูน กล่าวต่อไปว่า นอกจากความคืบหน้าด้านธุรกิจที่กล่าวถึงข้างต้นแล้ว ในไตรมาสนี้ ธนาคารยังมีความคืบหน้าในเรื่องการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ด้วยการได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นให้ขาย NPL จำนวน 6,270 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 2/2551 นอกจากนี้ ธนาคารยังอยู่ระหว่างเตรียมการขาย NPL เพิ่มเติมอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท ในปีนี้
“จนถึงวันนี้ ธนาคารพอใจกับความคืบหน้าในการดำเนินงาน เพราะเห็นได้ว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ สำหรับลูกค้าก็จะเห็นการออกผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้บริการทางการเงินออกมาอย่างต่อเนื่อง” นายตัน คอง คูน กล่าวในที่สุด
ข้อมูลเกี่ยวกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2488 ปัจจุบันเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย เป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร แก่ทั้งลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าบุคคล ผ่านเครือข่ายสาขา 568 แห่งทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2550 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ จีอี มันนี่ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินเพื่อรายย่อยชั้นนำของโลกได้บรรลุข้อตกลงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจโดย จีอี มันนี่เข้าถือหุ้นของธนาคารในสัดส่วนร้อยละ 25.4 (หลังใบสำคัญแสดงสิทธิแปลงสภาพเต็มจำนวนแล้ว) ต่อมาเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 33 เมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม 2550 และสุดท้ายเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2550 จีอี มันนี่ ได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธนาคารเป็นร้อยละ 35 ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจและความเชื่อมั่นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับการผสานความสามารถทางธุรกิจของสององค์กร คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ จีอี มันนี่ เพื่อให้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา บรรลุเป้าหมายการเป็นธนาคารที่ให้บริการครบวงจรชั้นนำของประเทศไทย ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม ได้ที่เว็บไซต์ธนาคาร www.krungsri.com
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คุณเยาวลักษณ์ พูลทอง
ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านการสื่อสารองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์หมายเลข 0 2296 3729
อีเมล์: pyawalak@krungsri.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ