- ธุรกิจค้าปลีกกลับมาเติบโตหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้จะมีความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ
- 6 ปัจจัยขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค
- บริษัทค้าปลีกต้องทบทวนธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต
หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธุรกิจค้าปลีกต้องรับมือกับความท้าทายและเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานเพื่อผู้บริโภคในอนาคต รายงานการวิเคราะห์ของ EY (อีวาย) ระบุว่า บริษัทค้าปลีกส่วนใหญ่มีผลการดำเนินงานดีขึ้น แต่การเติบโตเป็นผลมาจากราคาสินค้าที่สูงขึ้น
รายงานการวิเคราะห์ของ EY ระบุต่อว่า ผลประกอบการของธุรกิจค้าปลีกในช่วงนี้จะได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อ การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
นริศรา พัตนพิบูล หัวหน้าสายงานบริการที่ปรึกษาธุรกิจ EY ประเทศไทย กล่าวว่า
"สมาคมผู้ค้าปลีกไทยคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมค้าปลีกจะเติบโต 6-8% ในปี 2566 จากการฟื้นตัวของผู้บริโภคและการท่องเที่ยว ถึงแม้ผู้บริโภคกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติ แต่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคคือความท้าทายสำคัญสำหรับบริษัทค้าปลีก ซึ่งการไลฟ์ขายสินค้าออนไลน์และการจัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภคให้ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้น"
ปัจจัยสำคัญที่สร้างโอกาสและความท้าทายทางธุรกิจ
EY เผย มีปัจจัยสำคัญ 6 ประการ ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมค้าปลีก ซึ่งสร้างทั้งโอกาสและความท้าทายให้ธุรกิจ
นริศรา กล่าวเพิ่ม
"ปัจจัยขับเคลื่อนทั้งหมดนี้ส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทค้าปลีกที่ต้องการแข่งขันและสร้างการเติบโตจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมากกว่ากลยุทธ์ด้านราคา เช่น เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลช่วยให้ได้ข้อมูลเชิงลึกและสร้างการสื่อสารได้หลายช่องทาง เพื่อยกระดับและส่งมอบคุณค่าที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง"
บริษัทค้าปลีกต้องปรับรูปแบบธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการใหม่
บริษัทค้าปลีกต้องให้ความสำคัญกับ 4 เรื่องต่อไปนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
- ผู้บริโภคจะให้ค่ากับประสบการณ์ของการซื้อและการช้อปปิ้งที่แตกต่างกัน: "การซื้อ" สินค้าในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องธรรมดา เป็นหน้าที่ และใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการซื้อสินค้ามากขึ้น ในขณะที่ "การช้อปปิ้ง" คือการที่ผู้บริโภคมองหาสินค้าหรือบริการแบบเฉพาะเจาะจงที่ช่วยให้ได้แสดงความเป็นตัวตนออกมา ผู้บริโภคจะมุ่งความสนใจไปยังแบรนด์ที่สามารถนำเสนอสินค้า บริการ และประสบการณ์ที่แตกต่างกันในแบบเสมือนจริงผ่านช่องทางออนไลน์หรือที่ร้านค้า
- ผู้บริโภคเลือกที่จะเป็นเจ้าของน้อยลง โดยเปลี่ยนไปเลือกบริการที่ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์แทน: ผู้บริโภคจะครอบครองสิ่งของน้อยลง ในทางกลับกัน จะเต็มใจจ่ายเงินเพื่อใช้งานหรือเข้าถึงสิ่งที่ต้องการในทันที ไลฟ์สไตล์และบริการจะเข้ามาแทนที่สินค้ามากขึ้น บริการตามความต้องการ (on-demand) สามารถตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภคได้ทันท่วงที (real-time) การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือ การเสนอสินค้าบริการแบบครบวงจรแทนการเสนอสินค้าเพียงอย่างเดียว
- ผู้บริโภคต้องการข้อมูลที่โปร่งใสเกี่ยวกับที่มาและการจัดส่งสินค้า: ผู้บริโภคต้องการรู้ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับแหล่งที่มาของสินค้า เส้นทางการขนส่งและผลกระทบของสินค้าต่อชุมชนและโลก ความโปร่งใสมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ โดยผู้บริโภคจะมองหาสินค้าที่ตอบสนองความต้องการและค่านิยมเฉพาะ การผลิตรูปแบบใหม่ที่ช่วยย่นกระบวนการของซัพพลายเชน เช่น การเกษตรในเมือง (Urban Farming) และเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ (3D-printing) จะทำให้ได้สินค้าตามต้องการและโปร่งใสต่อผู้บริโภค
- ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพอย่างต่อเนื่องแต่เป็นปฏิสัมพันธ์ที่มองไม่เห็น: ผู้บริโภคจะดูแลสุขภาพด้วยความพยายามน้อยที่สุด ตั้งแต่ด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย ไปจนถึงความเป็นอยู่ที่ดี โดยใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนซึ่งติดตามไลฟ์สไตล์และมีการแจ้งเตือนให้พวกเขาปรับรูปแบบการทำกิจกรรมให้ดีขึ้น
นริศรา กล่าวว่า
"ความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้าที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทค้าปลีกต้องประเมินรูปแบบธุรกิจเพื่อใช้นวัตกรรมอย่างสร้างสรรค์ และมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้ลูกค้า ความแตกต่างของประสบการณ์คือปัจจัยสำคัญในการดึงดูดลูกค้า ผู้ค้าปลีกบางรายแนะนำสินค้าและเรื่องราวแบบเรียลไทม์ รวมทั้งให้ทดลองใช้สินค้าในรูปแบบเสมือนจริงเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้า"
"เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น แพลตฟอร์มต่างๆ, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ซัพพลายเชน, ดิจิทัล ทวิน (Digital Twin) และบล็อกเชน จะช่วยให้บริษัทค้าปลีกนำเสนอสินค้าที่หลากหลาย ระบบสมาชิกและบริการที่ตรงความต้องการ ช่วยมอบประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างราบรื่น ทั้งบนแพลตฟอร์มดิจิทัลและในร้านค้า"
นริศรา กล่าวสรุป
"ผู้ค้าปลีกที่ต้องการแข่งขันและสร้างการเติบโตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์แบบองค์รวม ซึ่งการรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจและกลไกของตลาดที่ท้าทาย จำเป็นต้องติดตามกฎระเบียบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าจะปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงทั้งในระดับประเทศและระดับโลก นอกจากนี้ เพื่อรับมือและตอบสนองต่อพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้ค้าปลีกจำเป็นต้องใช้ประโยชน์และเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคให้มากขึ้น รวมทั้งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้ลูกค้าไว้วางใจ ผ่านการมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่าร่วมกัน"