การดำเนินธุรกิจด้วยหลักการสร้างความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชนและสังคม เป็นนโยบายที่ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน มุ่งมั่นผลักดันอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในนั้นคือโครงการ "รวมหัวใจให้บ้านเกิด" ซึ่งส่งเสริมให้พนักงานได้มีส่วนร่วมเสนอโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนบ้านเกิดของตัวเอง นำมาผนวกบวกกับจุดแข็งและความเชี่ยวชาญในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างของไทวัสดุ ซึ่งมีทั้งสินค้าหลากหลายเพื่อการปรับปรุงที่อยู่อาศัย และบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างอาคารและการซ่อมแซมต่างๆ
โครงการ รวมหัวใจให้บ้านเกิด เป็นโครงการที่ไทวัสดุทำต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว ตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งโครงการฯ ได้ไปปรับปรุงอาคารเรียนและมอบอุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์การเกษตร ณ โรงเรียนบ้านหนองไทร จ.บุรีรัมย์ และปี 2563 เป็นการปรับปรุงสถานที่และมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตลิ่งชัน จ.สระบุรี ส่วนในปี 2564 ปรับปรุงสถานที่และมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสุเหร่าเขียว จ.นนทบุรี และในช่วงปลายปี 2565 โครงการรวมหัวใจให้บ้านเกิดได้มาพัฒนาปรับอาคารสถานที่ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าศาลา จ.ลพบุรี
ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล และเพื่อนพนักงาน ได้ร่วมบริจาคสนับสนุนงบประมาณสำหรับโครงการนี้ไปแล้วรวมมูลค่ากว่า 1.4 ล้านบาท แต่สิ่งที่สำคัญกว่าจำนวนเงิน ก็คือการสร้างโอกาสให้พนักงานไทวัสดุได้มีส่วนร่วมพัฒนาสังคม สร้างความภาคภูมิใจให้พนักงานที่ได้กลับไปพัฒนาคุณภาพชีวิตในชุมชนภูมิลำเนาของตัวเอง
จากความผูกพัน สู่แรงบันดาลใจพัฒนาบ้านเกิด
นางสาวอนัญญา สุริยาโน หัวหน้าแผนก SC-DIY ไทวัสดุ สาขาลพบุรี ผู้เสนอโครงการพัฒนาชุมชนท่าศาลา และได้รับคัดเลือกในปีนี้ เล่าว่า รพ.สต. ท่าศาลา เป็นสถานพยาบาลที่ตนเองมีความผูกพันมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่จำความได้ก็เห็นคนในชุมชนท่าศาลาใช้บริการที่ รพ. สต. แห่งนี้มาตลอด รวมทั้งครอบครัวของตนเองเช่นกัน เพราะสะดวก ใกล้กับบ้านและที่ทำงานของคนในครอบครัว และค่าใช้จ่ายในการรักษาที่นี่ก็ไม่สูงมาก
ด้วยความผูกพันจากการใช้บริการมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ รพ. สต. แห่งนี้มาตลอด ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น แต่สถานที่ไม่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกิดการเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา
"เราและคนในครอบครัวมาใช้บริการที่ รพ.สต. นี้ตั้งแต่ยังเด็กเลย สิ่งที่เห็นคือจำนวนคนที่มาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น สถานที่ถูกใช้งานตลอดเวลา บางจุดก็เก่าบ้างพังบ้างแต่ยังไม่มีการซ่อมแซม ไม่เอื้ออำนวยแก่ผู้ที่มาเข้ารับบริการ เช่น พื้นที่ห้องตรวจต่างๆ มีสภาพชำรุด หรือห้องตรวจภายในไม่มีที่กั้น อยากให้มีความเป็นส่วนตัวมากกว่านี้ และโซนด้านหน้าอาคารไม่มีหลังคาสำหรับกันแดดกันฝน ถ้าฝนตกคนในชุมชนที่มาใช้บริการต้องเข้าไปแออัดกันอยู่ด้านใน ทำให้อึดอัดมากเพราะสถานที่ก็ค่อนข้างคับแคบ"
และเมื่อไทวัสดุได้เปิดรับสมัครโครงการรวมหัวใจให้บ้านเกิด คุณอนัญญาจึงมองเห็นโอกาสที่จะได้พัฒนาที่นี่ และตั้งใจถ่ายทอดปัญหาที่ได้พบเจอ รวมทั้งความผูกพันกับ รพ.สต. และคนในชุมชน "ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าถ้า รพ.สต. แห่งนี้ได้รับการพัฒนาก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะชาวบ้านในพื้นที่ที่มาใช้บริการก็จะได้รับผลประโยชน์ในเรื่องนี้ไปด้วย แต่เนื่องจากขาดกำลังทุนทรัพย์ และขาดผู้สนับสนุนจึงไม่สามารถทำตามความฝันที่อยากพัฒนาตรงนี้ให้เกิดขึ้นมาได้"
มากกว่างานปรับปรุงสถานที่ คือคุณภาพชีวิตของชุมชน
นางสาวอนัญญา เล่าด้วยความภาคภูมิใจว่า "ปีนี้มีพนักงานส่งเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลในการพัฒนาบ้านเกิดของตัวเองถึง 37 โครงการ และเรื่องที่ถูกคัดเลือกและนำมาพัฒนาต่อยอด คือ เรื่องของเรา รู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่ได้โอกาสนี้ เพราะเราตั้งใจถ่ายทอดปัญหาที่เกิดขึ้นจริงและความตั้งใจที่จะพัฒนาชุมชนให้ดีขึ้น"
เมื่อโครงการผ่านการพิจารณาจากผู้บริหารแล้ว ทีมงานจากส่วนกลางและสาขาก็จะมาวางแผนร่วมกันทั้งด้านกำลังคน ระยะเวลา และวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งที่ รพ. สต. ท่าศาลา จ.ลพบุรี แห่งนี้ ไทวัสดุได้เข้าไปดำเนินการปรับปรุงหลังคาที่พักคอยรอเข้ารักษาด้านหน้าอาคาร ปรับปรุงและกั้นพื้นที่ห้องตรวจภายในให้เป็นสัดส่วน ซ่อมแซมห้องนวดแผนไทย รวมไปถึงสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เตียงตรวจ นารีเวช ฉากบังตา อุปกรณ์สำนักงาน โต๊ะ เก้าอี้ และอื่น ๆ ที่จำเป็น ด้วยงบประมาณกว่า 300,000 บาท นอกจากนี้คุณอนัญญาและเพื่อนพนักงานในสาขาลพบุรียังได้ร่วมกันสมทบทุนเพิ่มเติมอีกจำนวน 13,000 บาท เพื่อจัดซื้อตู้อบสมุนไพร มอบให้แก่ รพ.สต. ท่าศาลา เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการและการรักษาผู้ป่วยอีกด้วย
"การพัฒนา รพ.สต. ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ สามารถช่วยคนในชุมชนได้จริง เนื่องจากที่นี่อยู่ในใจกลางชุมชน ใครเป็นอะไรก็เดินทางมาได้สะดวก ช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางเพื่อเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลใหญ่ในเมือง ถ้ารักษาอาการเจ็บป่วยแบบเบื้องต้น คนในชุมชนก็จะมาใช้บริการที่นี่มากกว่า
"ต้องขอบคุณผู้บริหาร และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ทำให้เกิดโครงการดี ๆ แบบนี้ ทำให้ชุนชมเล็ก ๆ ได้เกิดการพัฒนา และขอขอบคุณเพื่อนร่วมงานทุกคนที่ได้ลงทั้งแรงกาย แรงใจในการพัฒนาที่นี่ อยากให้พนักงานคนอื่นได้มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการดี ๆ แบบนี้ ได้กลับไปพัฒนาบ้านเกิดของตัวเอง ประทับใจที่ซีอาร์ซี ไทวัสดุ ให้ความสำคัญกับเสียงของพนักงานทุกคน รวมถึงเป็นการปลูกจิตสำนึกความรักบ้านเกิดของตัวเองด้วย" คุณอนัญญา กล่าวทิ้งท้าย
โครงสร้างพื้นฐานสถานบริการสุขภาพชุมชน จุดเปลี่ยนสำคัญเพื่อการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ไทวัสดุเป็นองค์กรที่เห็นดีมานด์ความต้องการด้านวัสดุก่อสร้างในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งกลุ่มก่อสร้างประเภทหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้วัสดุที่มีคุณภาพที่ดี คือ บริการด้านสาธารณสุข เช่น โรงพยาบาล สถานส่งเสริมสุขภาพในระดับชุมชน ฯลฯ เนื่องจากเป็นส่วนที่มีความเกี่ยวพันกับความเป็นอยู่และเป็นจุดเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ ผู้นำ คนในชุมชน และพื้นที่ดังกล่าวยังสามารถใช้ประโยชน์อื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และสังคมได้ ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าหลายชุมชนของประเทศไทยยังคงจำเป็นต้องมีการส่งเสริมงานด้านโครงสร้างพื้นฐานโรงพยาบาลชุมชนให้มีความพร้อมต่อการรองรับการรักษาอยู่อีกมาก ไม่ว่าจะเป็น ที่พักเจ้าหน้าที่ ระบบสิ่งแวดล้อม พื้นที่เพื่อการใช้สอยอื่น ๆ ของคนในชุมชน การออกแบบอาคารที่ตรงตามมาตรฐานความปลอดภัยและสอดคล้องกับการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในส่วนที่กล่าวมานี้ ไทวัสดุพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการคัดสรรและส่งมอบอุปกรณ์ที่มีคุณภาพให้กับคนในทุกพื้นที่ และยังพร้อมที่จะผลักดันศักยภาพของคนในองค์กรให้มีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน สังคม เศรษฐกิจ ให้มีการเติบโตไปตามบริบทที่เปลี่ยนแปลง
"ความภาคภูมิใจของพนักงานและการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนของ ซีอาร์ซี ไทวัสดุ ที่มุ่งมั่นสานต่อเจตนารมณ์ ของเซ็นทรัล รีเทล ในการเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีกต้นแบบรายแรกของไทยด้านความยั่งยืน เพื่อดำเนินธุรกิจให้เติบโต ไปพร้อมกับการพัฒนาสินค้าและบริการที่ดี โดยคำนึงถึงความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้นต่อสังคมแบบองค์รวมต่อไป"