สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) เผยผลสำรวจเรื่องการคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยประจำเดือนเมษายน พ.ศ.2566 ว่า แนวโน้มของความต้องการใช้จ่ายสูงขึ้น (+2) เมื่อเทียบจากผลสำรวจเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ทำให้เห็นว่าแม้ในขณะที่คนไทยความสุขลดลง จากปัญหารอบตัวมากมาย อาทิ พิษฝุ่น PM 2.5 หรือ อากาศที่ร้อนจัดในช่วงฤดูร้อนนี้ แต่คนไทยยังมีแนวโน้มมองบวก สังเกตได้จากความอยากใช้จ่ายเพื่อเสริมภาพลักษณ์ในกลุ่มเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว
จากผลสำรวจของคำถามพิเศษประจำเดือนพบว่า เทศกาลปีใหม่ไทยที่กำลังจะมาถึงนี้มีสัญญาณของความต้องการเริ่มต้นใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว คุณพร้อมพร สุภัทรวณิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยการตลาดและวางแผนกลยุทธ์ จึงเสนอแนวทางการปรับกลยุทธ์ให้แบรนด์ต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนไปตามแนวโน้มในปัจจุบันว่า
ฤดูร้อนปีนี้อุณหภูมิจะร้อนขึ้นแตะถึง 40 องศาเซลเซียสทำให้คนไทยร้อนทั้งกาย ร้อนทั้งใจ จากทั้งสภาพอากาศและข่าวชวนหัวร้อนที่เกิดขึ้นแบบรายวัน ทำให้อะไรๆ รอบตัวก็ดูน่าหงุดหงิดและไม่สดชื่นไปเสียหมด แบรนด์สามารถเข้ามาช่วยฮีลใจ เติมเต็มสีสันให้คนไทยในนาทีนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์กิจกรรม CSR ทำดีช่วยเหลือสังคม หรือใช้ sense of humor ผูกคอนเทนต์เกาะกระแสที่น่ารัก ชวนอมยิ้ม ให้แก่ผู้บริโภค เช่น ไอเดียใช้ตัวคาปิบารา (กะปิปลาร้า หมามะพร้าว) สัตว์แสนน่ารักที่กำลังเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ หรือ #ขายด่วน (ด่วนจนรูปเบลอ) การใช้รูปเบลอมาทำแคมเปญให้เป็นไวรัล เพื่อเพิ่มรอยยิ้มให้แก่ผู้อ่าน
2. ร่วมสนับสนุนคนไทยให้กล้าที่จะก้าว first step "เริ่มสิ่งใหม่ ในแบบของตัวเอง"
ฝ่าฟันกันมานานกว่า 3 ปี ในที่สุดเทศกาลการเล่นสงกรานต์ครั้งแรกของคนไทยได้กลับมาอีกครั้ง คนไทยจะได้ฉลองแบบจัดเต็ม หนุนความอยากเริ่มต้นใหม่ สู่อนาคตที่ดีกว่าเดิม สิ่งใหม่ในที่นี้ไม่ใช่แค่สิ่งของ แต่เป็นได้ทุกด้านทั้ง ความรู้ ความสามารถ พฤติกรรม ความรู้สึก หรือแม้กระทั่งการเริ่มสิ่งใหม่ๆ อาทิ งานใหม่ พบเจอสังคมใหม่ๆ แบรนด์สามารถส่งเสริมและสนับสนุนให้คนกล้าเริ่ม first step โดยไม่ลังเล ไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือระยะยาว
สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) มองเห็นมุมมองใหม่ที่น่าสนใจจากผลสำรวจประจำเดือนเมษายน พ.ศ. 2566 ว่า
คนกรุงเทพฯ เน้นกินดื่ม เที่ยวในประเทศ และกิจกรรมนอกบ้าน พร้อมอัพลุคด้วย สินค้ากลุ่ม beauty เพื่อเสริมภาพลักษณ์ให้กับตนเองช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย สำหรับคนภาคกลาง หลายจังหวัดมีแนวโน้มร้อนสุดในไทย จึงเน้นใช้จ่ายสิ่งของเพื่อดับร้อน เช่น เครื่องใช้ในบ้าน รวมถึงทริปเที่ยวคลายร้อนสำหรับตนเองและครอบครัว
2. "เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในปีนี้คุณอยากใช้ชีวิตอย่างไร" คำถามพิเศษของผลสำรวจประจำเดือนเมษายน
คนไทยเกือบ 60% ต้องการเริ่มต้นใหม่หรืออยากเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตมีแต่สิ่งใหม่ๆ ซึ่งมีจุดที่น่าสนใจคือความแตกต่างระหว่างเพศชายและหญิงในคำถามปลายเปิด สำหรับเพศหญิง ต้องการเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองทำได้ในปัจจุบันมุ่งเน้นเรื่องจิตใจและเรื่องใกล้ตัว ในขณะที่เพศชายจะโฟกัสกับการทำงานเพื่อรายได้ที่มั่นคง หรือมีความคาดหวังเรื่องของการเปลี่ยนแปลงในระดับประเทศ
3. ค่าความสุขลดลง (-2%) สวนทางกับแนวโน้มความต้องการใช้จ่ายที่สูงขึ้น
เมื่อเทียบกับผลสำรวจเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา ค่าความสุขของคนไทยลดลง (-2%) ด้วยปัญหารอบด้านที่รบกวนจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอากาศร้อนทะลุปรอท ปัญหามลพิษจากการเผาไฟ รวมไปถึงพิษของฝุ่น PM 2.5 ทำให้คนไทยหลายคนไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนชรา ต้องประสบปัญหาเรื่องทางด้านสุขภาพไม่น้อย
ข่าวที่คนไทยให้ความสนใจมากในขณะนี้ หนีไม่พ้นข่าวการเมืองที่ร้อนระอุ ที่พรรคต่างๆ เริ่มหาเสียงกันอย่างดุเดือด คุณพร้อมพร สุภัทรวณิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยการตลาดและวางแผนกลยุทธ์ อธิบายเรื่องข่าวที่คนไทยให้ความสนใจในภาพรวมไว้ว่า 'ไม่ใช่เพียงแต่อุณหภูมิในหน้าร้อนปีนี้ที่ร้อนระอุ แต่ข่าวการเมืองและเรื่องการเลือกตั้งก็ร้อนระอุเช่นกัน รวมไปถึงเรื่องมลพิษทางอากาศที่หนักข้อขึ้นทุกวัน คนไทยหลายคนถามหาความรับผิดชอบในการจัดการเรื่องกวนใจคนไทยให้คลี่คลายและหมดไป' ผลกระทบจากข่าวรอบตัวที่มีแต่ปัญหา อาจรั้งคนไทยให้สุขไม่สุดในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทยที่กำลังจะมาถึงนี้