ผู้ถือหุ้น บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม (ITNS) อนุมัติแจกปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.12 บาท/หุ้น กำหนดจ่าย 23 พ.ค. นี้ ฟากบิ๊กบอส "สมชาย อ่วมกระทุ่ม"ตั้งเป้ารายได้ปี 66 โตไม่ต่ำกว่า 25-30% ด้วยกลยุทธ์มุ่งเน้นขยายฐานรายได้จาก 3 ธุรกิจ รองรับการขยายตัวของโครงการทั้งภาคเอกชน-ภาครัฐ และอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลการลงทุนในกิจการที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจอีกด้วย ตุนงานในมือประมาณ 400 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ - ปี 2570 มั่นใจช่วยผลักดันผลงานปีนี้ออลไทม์ไฮต่อเนื่อง
นายสมชาย อ่วมกระทุ่ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม จำกัด (มหาชน) (ITNS) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดปี 2565 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 26,400,000 บาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 9 มีนาคม 2566 ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 8 มีนาคม 2566 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 2566
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้อยู่ที่ประมาณ 25-30% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการขยายฐานรายได้จากธุรกิจ System Integrator และธุรกิจ Maintenance จากทั้งฐานลูกค้าเก่าและใหม่ เนื่องจากแต่ละองค์กรจำเป็นต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงระบบ IT เป็นประจำสม่ำเสมอ ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป และขยายธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ พร้อมกับอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลการลงทุนในกิจการที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ ที่สามารถช่วยส่งเสริมการขยายฐานตลาดของบริษัทฯ
"สำหรับปี 2566 เราเชื่อมั่นว่าในทุกกลุ่มธุรกิจจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปีก่อนจากการขยายตัวของโครงการทั้งภาคเอกชน และภาครัฐ อีกทั้งงานให้เช่าจะเติบโตโดดเด่นที่สุดเนื่องจากบริษัทฯ มีความพร้อมทางด้านเงินทุนจะที่ขยายขยายธุรกิจนี้ ซึ่งเป็นรายได้แบบประจำ (Recurring Income) และสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีข้อจำกัดทางการเงินและต้องการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีให้ทันสมัยอย่างสม่ำเสมอ"
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) รวมมากกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้ ไปจนถึงปี 2570 และอยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงานใหม่รวมมูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท คาดทยอยรู้ผลภายในเร็วๆ นี้ ทำให้เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะสามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องจากปีก่อน