นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม.กล่าวกรณีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตือน 5 จังหวัดที่มีอัตราป่วยโรคหัดสูงสุด 5 อันดับแรกคือ ยโสธร ภูเก็ต ยะลา นราธิวาส และกรุงเทพฯ พาบุตรหลานรับวัคซีนตามเกณฑ์ที่กำหนดว่า สนพ.ได้กำหนดแนวทางการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด (MMR) ซึ่งเป็นวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด (Measles) คางทูม (Mumps) และหัดเยอรมัน (Rubella) ให้กับเด็กและเน้นย้ำแนวทางการให้บริการแก่บุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความเชื่อมั่นมาตรฐานการให้บริการอย่างปลอดภัย พร้อมแจ้งศูนย์เด็กเล็กน่าอยู่คู่นมแม่ในการดูแลของ กทม.ติดตามเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือรับวัคซีนล่าช้า มารับวัคซีนอย่างเร่งด่วน เพื่อยกระดับความครอบคลุมการได้รับวัคซีนให้สูงเพียงพอต่อการป้องกันโรค
ทั้งนี้ จากการศึกษาในประเทศไทยพบว่า เด็กอายุ 7 เดือน ไม่พบภูมิต้านทานโรคหัดที่ได้รับจากมารดาสู่ทารกแล้ว เมื่ออายุ 9 เดือน เด็กจึงไม่มีภูมิดังกล่าวที่จะรบกวนการสร้างภูมิต้านทานของโรคหัดในทารกเมื่อฉีดวัคซีน ดังนั้น การให้วัคซีน MMR เข็มแรกที่อายุ 9 เดือน จึงเหมาะสมที่สุด หลังการให้วัคซีน 2 เข็มในเด็ก จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคหัดจนถึงในเด็กวัยเรียนและผู้ใหญ่ ส่วนภูมิคุ้มกันต่อโรคคางทูม หลังได้รับเข็มที่ 2 จะมีประสิทธิภาพป้องกันโรคได้ร้อยละ 66 - 95 ขณะที่โรคหัดเยอรมัน หลังได้รับวัคซีนเพียง 1 เข็ม จะมีภูมิคุ้มกันป้องกันโรคได้ตลอดชีวิต
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ป่วยโรคหัดในพื้นที่กรุงเทพฯ ในปี 2565 พบผู้ป่วยโรคหัด 118 คน คิดเป็นอัตราป่วยร้อยละ 2.15/แสนประชากร และในปี 2566 จำนวน 25 คน คิดเป็นอัตราป่วยร้อยละ 0.45/แสนประชากร ไม่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ โรคหัดติดต่อผ่านทางเดินหายใจ โดยผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดคือ มีไข้ ไอแห้ง ๆ มีน้ำมูก และตาแดง หลังจากมีไข้ประมาณ 3 - 4 วัน จะเริ่มมีผื่นนูนแดงขึ้นที่ใบหน้า แล้วค่อยลามไปแขนและขา เมื่อผื่นขึ้นประมาณ 1 - 2 วัน ไข้จะเริ่มลดลง โดยในผู้ป่วยบางรายสามารถพบภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ สมองอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด (MMR) ตั้งแต่วัยเด็ก จึงขอแนะนำประชาชนพาบุตรหลานเข้ารับวัคซีนตามเกณฑ์ที่กำหนดที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใน Well Baby Clinic ในวันอังคารและพฤหัสบดี ระหว่างเวลา 13.00 - 15.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย