ธนาคารกลางเวียดนาม (State Bank of Vietnam: SBV) อนุมัติให้ธนาคารกสิกรไทย สาขาโฮจิมินห์ เพิ่มทุนกว่า 2.5 เท่า จาก 2,700 ล้านบาท เป็น 9,600 ล้านบาท โดยการเพิ่มทุนในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านการเป็นแหล่งทุนให้แก่เจ้าของธุรกิจ ตั้งแต่กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ ไปจนถึงกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายย่อย และเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้การบริการทางการเงินเต็มรูปแบบ (Transactional Ecosystem) รวมทั้งพัฒนาระบบโครงสร้างด้านเทคโนโลยีซึ่งเป็นหัวใจหลักที่ธนาคารให้ความสำคัญ คาดจะสามารถดำเนินธุรกิจในเวียดนามได้อย่างยั่งยืน มุ่งสู่ความสำเร็จด้วยการเป็นธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่ติดอยู่ใน 20 อันดับแรกในประเทศเวียดนาม ภายในปี 2570
นายชัช เหลืองอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารมุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งของแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเวียดนาม จึงเดินหน้าเพิ่มทุนเพื่อเพิ่มความพร้อมทั้งในด้านการปล่อยสินเชื่อและการให้บริการด้านต่างๆ แก่ลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มองค์กร/ธุรกิจขนาดใหญ่ กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และกลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยล่าสุด ธนาคารกลางเวียดนาม (State Bank of Vietnam: SBV) อนุมัติให้ธนาคารกสิกรไทย สาขาโฮจิมินห์ เพิ่มทุนกว่า 2.5 เท่า จาก 2,700 ล้านบาท เป็น 9,600 ล้านบาท ซึ่งเชื่อมั่นว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งและสมบูรณ์ให้การบริการทางการเงินเต็มรูปแบบ (Transactional Ecosystem)ของธนาคารกสิกรไทย รวมทั้งพัฒนาระบบโครงสร้างด้านเทคโนโลยีซึ่งเป็นหัวใจหลักที่ธนาคารให้ความสำคัญเพื่อสนับสนุนธุรกิจและประชาชนในเวียดนามที่เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ SMEs และลูกค้ารายย่อย ซึ่งมีจำนวนมากในประเทศ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความก้าวหน้า และพร้อมขยายไปเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ได้ในอนาคต โดยธนาคารจะนำประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญทั้งในด้านเทคโนโลยี การจัดการความเสี่ยง การเชื่อมต่อระดับภูมิภาค และการสร้างความร่วมมือระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อส่งมอบบริการทางการเงินที่สอดรับกับความต้องการของลูกค้าเพื่อประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ ธนาคารจะเดินหน้าขยายการบริการให้เข้าถึงลูกค้าทุกระดับและเพื่อเชื่อมต่อโอกาสให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่เริ่มหันมาเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก รวมถึงธุรกิจท้องถิ่นต่างๆ ด้วยการให้สินเชื่อดิจิทัลเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินและสินเชื่อได้สะดวก โดยนำศักยภาพด้านเทคโนโลยีของธนาคารในฐานะผู้นำด้านดิจิทัลแบงกิ้งและโมบายแบงกิ้งของไทยไปต่อยอดแก่ลูกค้าในเวียดนาม ผ่านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น KBank Biz Loan ที่ให้สินเชื่อแก่ร้านค้าขนาดเล็กผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน K PLUS Vietnam นอกจากนี้จะมีการใช้ข้อมูลเพิ่มเติม (Alternative Data) ซึ่งช่วยให้ธนาคารส่งมอบบริการไปยังกลุ่มลูกค้าที่เข้าถึงบริการทางการเงินได้ยาก (Underbanked) ซึ่งเป็นฐานลูกค้าขนาดใหญ่ได้มากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่ให้ความสะดวก แม่นยำ และปลอดภัย ตั้งเป้า มุ่งสู่การเป็นธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่ติดอยู่ใน 20 อันดับแรกในประเทศเวียดนาม ภายในปี 2570
นอกจากนี้ธนาคารจะต่อยอดฐานลูกค้าปัจจุบันของ K PLUS Vietnam ที่มีมากกว่า 470,000 รายภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปีนี้ ให้กลายเป็น 1.3 ล้านรายภายในสิ้นปี 2566 ที่นอกจากผ่านการสร้างความแข็งแรงทางเทคโนโลยีดังที่กล่าวมาแล้ว ธนาคารพร้อมเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นผ่านการทำการตลาด เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจและไว้ใจธนาคารให้มากขึ้น และเลือกใช้เราเป็นธนาคารที่ลูกค้าใช้เป็นหลัก (Operating Bank)ต่อไป