นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์จากอิทธิพลของพายุฤดูร้อนที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนน.ได้เร่งลดระดับน้ำในคูคลอง บ่อสูบน้ำ และแก้มลิงให้อยู่ในระดับต่ำตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จัดเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการเร่งด่วนเคลื่อนที่ (BEST) เข้าพื้นที่ขณะที่มีฝนเริ่มตก ขณะเดียวกันได้เร่งระบายน้ำบริเวณจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่จุดเสี่ยง จุดเฝ้าระวัง และบริเวณอุโมงค์ทางลอดต่าง ๆ พร้อมทั้งจัดเก็บขยะหน้าตะแกรง ช่องรับน้ำฝน ขยะหน้าตะแกรงหน้าสถานีสูบน้ำ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขัง จัดเก็บขยะวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวกรวดเร็ว
นอกจากนั้น ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานีสูบน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำ และบ่อสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองประจำสถานีสูบน้ำกรณีไฟฟ้าขัดข้อง เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ (โมบายยูนิต) รถเครน รถบรรทุกติดตั้งเครนยกไฮโดรลิก บอลลูนไลท์ เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อติดตั้งและตรวจสอบแก้ไขเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ การจัดเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอสำหรับเครื่องสูบน้ำและเครื่องจักรกลที่ใช้งานในพื้นที่จุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม เพื่อติดตาม ตรวจสอบ เฝ้าระวังสภาพอากาศตามการแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาและตรวจสอบติดตามกลุ่มฝนด้วยเรดาร์ตรวจอากาศของกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายในและภายนอก กทม.ช่วยเหลือประชาชนกรณีเกิดปัญหาต้นไม้ใหญ่หักโค่น ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่โค่นล้ม และปัญหาน้ำท่วมขัง
อีกทั้งยังได้เปิดช่องทางการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝนและอิทธิพลของพายุฤดูร้อนที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ประชาชนรับทราบแบบเรียลไทม์ เพื่อขอรับความช่วยเหลือ หากประสบเหตุสาธารณภัยที่เกิดขึ้นจากพายุฤดูร้อนผ่านเว็บไซต์ http://dds.bangkok.go.th/, www.prbangkok.com, Facebook : @BKK.BEST, สำนักงานประชาสัมพันธ์ Twitter : @BKK_BEST, สำนักงานประชาสัมพันธ์ รวมถึงรับแจ้งเหตุปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม โทร.02 248 5115 หรือแจ้งผ่านระบบทราฟี่ฟองดูว์ (Traffy Fondue) และสายด่วน กทม.1555
นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม.กล่าวว่า สสล.ได้แจ้งเตือนสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ที่รับผิดชอบการดูแลบำรุงรักษาต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกบริเวณทางเท้าและเกาะกลางของถนนสายหลัก สายรอง และที่สาธารณะย่านชุมชน รวมทั้งแจ้งหน่วยงานในสังกัด สสล.ที่ดูแลสวนสาธารณะและพื้นที่สีเขียวในที่สาธารณะที่มีต้นไม้ใหญ่ใกล้เส้นทางสัญจรของประชาชนและย่านชุมชนให้เร่งตรวจตราต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่รับผิดชอบ ประเมินความเสี่ยง หากพบความเสี่ยงที่จะมีกิ่งฉีกหัก หรือโค่นล้มเมื่อเกิดพายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรง ให้เร่งตัดแต่ง โดยสางโปร่งเพื่อเปิดช่องให้ลมพัดผ่าน ไม่ต้านลม ลดโอกาสหัก ฉีก โค่นล้ม หากพบกิ่งผุและกิ่งที่เสี่ยง หักโค่นให้ตัดแต่งตามหลักรุกขกรรม หากพบต้นเอนเอียงเข้าเส้นทางถนนสายหลัก สายรองที่ประชาชนสัญจรให้พิจารณาดำเนินการค้ำยัน
ขณะเดียวกันได้เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ ยานพาหนะ และเครื่องมือประจำหน่วยเร่งด่วนฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง พร้อมออกปฏิบัติงาน เพื่อแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนทันที หากมีเหตุพายุฤดูร้อนทำให้ต้นไม้โค่นล้ม กิ่งหักลงถนนกีดขวางเส้นทางสัญจรของประชาชน หรือทำความเสียหายแก่บ้านเรือน รวมถึงได้ประสานความร่วมมือสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เตรียมชุดปฏิบัติการเร่งด่วนฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมมือกับ สสล.แก้ไขปัญหาต้นไม้ล้ม กิ่งไม้หักกีดขวางถนน พร้อมเปิดเส้นทางสัญจรให้ประชาชนได้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือประชาชนร่วมตรวจสอบสภาพต้นไม้ กิ่งไม้ในพื้นที่ส่วนบุคคล รวมถึงพื้นที่สาธารณะ หากพบต้นไม้อยู่ในสภาพเสี่ยงที่จะหัก โค่นล้ม หรือพบเห็นต้นไม้โค่นล้ม หรือเสี่ยงที่จะโค่นล้ม สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานเขตพื้นที่ หรือสายด่วน กทม.1555 หรือผ่านระบบ Traffy Fondue เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตัดแต่งต้นไม้ กิ่งไม้ รวมถึงเก็บกวาดกิ่งไม้ หรือต้นไม้ที่หักโค่นกีดขวางในที่สาธารณะ โดยหากประชาชนประสงค์ขอรับบริการตัดแต่งต้นไม้ในบ้าน สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตพื้นที่ ซึ่งมีอัตราค่าบริการตามระเบียบที่ กทม.กำหนดไว้