อากาศร้อนๆ นอกจากร่างกายจะสูญเสียน้ำไปกับเหงื่อ ทำให้ร่างกายอ่อนโรยได้ง่ายแล้ว การขาดน้ำในร่างกายยังมีผลต่อสุขภาพผิวของเราอีกด้วย วันนี้ไลฟ์เซ็นเตอร์บล็อกชวนมาทำความเข้าใจกันค่ะว่าน้ำจำเป็น มีความสำคัญต่อสุขภาพผิวของเราอย่างไรบ้าง
ร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ทำให้น้ำมีความจำเป็นต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย ทั้งระบบการหมุนเวียนของเลือด ระบบย่อยอาหาร ระบบการปรับอุณหภูมิของร่างกาย รวมไปถึงระบบการขับถ่ายของเสีย ร่างกายจึงจำเป็นต้องมีปริมาณน้ำที่เพียงพอ เพราะเมื่อใดก็ตามที่ร่างกายขาดน้ำไป นอกจากจะทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายแปรปรวนแล้ว ก็จะทำให้ผิวสวยๆ ขาดความชุ่มชื่น สดใส และเกิดอาการแพ้ได้ง่ายๆ อีกด้วย
ในส่วนของผิวหนังของเรานั้น เนื่องจากผิวหนังของเราประกอบไปด้วยชั้นของเซลล์หลายๆ ชั้น โดยชั้นบนสุดคือเซลล์ของผิวหนังที่ตายแล้ว ที่เรามักจะขัดถู โดยใช้สคลับเพื่อผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ซึ่งปกติผิวของเรานั้น ถ้าดูลึกลงไปในส่วนของเซลล์ จะพบว่ามีการเรียงตัวของเซลล์ในลักษณะยาวรีคล้ายใบไม้เรียงต่อกันเป็นตาข่าย โดยที่แต่ละเซลล์นั้นจะมีน้ำไปหล่อเลี้ยงตลอดเวลา ถ้าได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอผิวจะดูสวย สดใส เพราะเมื่อแสงตกกระทบก็จะเกิดประกายที่ผิว อย่างที่เรามักเรียกกันว่า "ดูมีน้ำ มีนวล" แต่ถ้าเมื่อใดที่ผิวของเราขาดน้ำไปหล่อเลี้ยง เซลล์ผิวของเราจะเล็ก ฟีบลง ดูเหี่ยวแห้ง ไม่มีชีวิตชีวา และ นอกจากในส่วนของเซลล์ผิวแล้ว ทั้งรอบๆ เซลล์ และในชั้นคอลลาเจน ก็ต้องการน้ำเพื่อความตึงตัวเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลง่ายๆ ว่าทำไมผิวสวยๆ จึงไม่ควรขาดน้ำค่ะ
เซลล์ผิวที่ขาดน้ำ เมื่อเราลองสัมผัส ก็จะรู้สึกได้ทันทีว่าผิวจะหยาบ และกระด้าง ขาดความยืดหยุ่น จนบางครั้งถ้าผิวแห้งมากๆ อาจเกิดเป็นจุด หรือจ้ำแดงๆ และมีอาการแพ้ต่อสารเคมี หรือฝุ่นควันต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญ อาจเริ่มมีปัญหาในการใช้เครื่องสำอาง ที่ไม่ใช่เพียงอาการแพ้ง่าย แต่เมื่อแต่งหน้าแล้ว ก็อาจทำให้เครื่องสำอางไม่ติด รองพื้นแล้วหน้าเป็นขุย หรือทาครีมแล้วครีมไม่ซึมลงสู่ผิว เนื่องจากผิวที่ขาดน้ำนั้นจะไม่ดูดซึมอะไรเลย และจะเริ่มแสดงอาการโทรม ใบหน้าอิดโรย ไม่สดใส ออกมาในที่สุด
ทางออกที่ง่ายที่สุดก็คือการเติมน้ำให้กับร่างกาย โดยดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และสำหรับช่วงเวลาที่ดีในการดื่มน้ำ ไล่ตามนี้เลยค่ะ
- เวลาตื่นนอน ควรดื่มประมาณ 1 แก้ว เพื่อลดความเข้มข้นของเลือด และกระตุ้นการทำงานของอวัยวะภายในให้ตื่นตัว
- เวลาสายๆ หรือ 9-10 โมงเช้า ควรดื่มประมาณ 2 แก้ว เพื่อชำระของเสียออกจากร่างกาย
- เวลาเที่ยงๆ หรือ ก่อนอาหาร 15 นาที ควรดื่มประมาณ ครึ่งแก้ว เพื่อช่วยให้ระบบการย่อยดีขึ้น แต่ถ้าใครอยากลดน้ำหนัก ลองเพิ่มปริมาณน้ำอีกซักนิด เป็น 1-2 แก้ว เพื่อจะได้อิ่มเร็วขึ้น
- เวลาหลังอาหาร หลังจากมื้ออาหารประมาณ 40 นาที ควรดื่มน้ำประมาณครึ่งแก้ว เพื่อช่วยระบบย่อยอาหาร แต่ช่วงเวลานี้ไม่ควรดื่มน้ำเยอะเกินไป เพราะจะไปเจือจางน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ทำให้น้ำย่อยทำงานได้ไม่เต็มที่
- เวลาก่อนนอน ควรดื่มน้ำประมาณ 1 แก้ว เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงภาวะเส้นเลือดในสมองแตก หรือหัวใจวาย และช่วยชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหาร แต่ไม่ควรดื่มเกิน 1 แก้ว เพราะจะทำให้ไตทำงานหนักในระหว่างหลับ และตื่นมาปัสสาวะในช่วงกลางดึก เป็นสาเหตุทำให้นอนหลับไม่สนิท
ทั้งนี้ นอกจากการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอแล้ว การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายที่เหมาะสม และการพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟู และซ่อมแซมเซลล์ผิวอีกด้วยค่ะ
อากาศร้อนๆ และแสงแดดแรงๆ ระยะนี้ ได้ความรู้เกี่ยวกับน้ำกันไปแล้ว อย่าลืมรีบไปเติมน้ำให้ร่างกายกันด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไลฟ์เซ็นเตอร์บล็อก https://lifecenterthailand.wordpress.com