บมจ.อิชิตัน หรือ ICHI โชว์งบการเงินโค้งแรกของปี 66 สุดสวย กำไรโต 2 เท่า 222 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 28 ไตรมาส อัตรากำไรขั้นต้นที่ 21% ผลจากบริหารต้นทุนได้ดี และไม่ได้รับผลกระทบจากภาษีความหวานที่เพิ่มขึ้น ทีม R&D โชว์เหนือนำนวัตกรรมมาปรับสูตรสินค้าลดน้ำตาลลง แต่คงความอร่อยสดชื่นเต็มที่ไม่มีเปลี่ยน ด้าน "ตันซันซู" และพาเหรดสินค้าใหม่โตต่อไม่รอแล้วนะ ส่วนธุรกิจ OEM ปิดดีลใหญ่กระตุ้นกำลังการผลิตพีค มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า 7,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI กล่าวว่า "บริษัทฯ ประสบความสำเร็จสำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2566) ด้วยรายได้ 1,832.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% และมีกำไรสุทธิ 222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และนับเป็นกำไรที่สูงสุด (New High) ในรอบ 28 ไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นยังอยู่ในระดับสูงที่ 21% เป็นผลมาจากประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน
ด้านสินค้าใหม่กระแสแรง ทั้ง "ตันซันซู" น้ำอัดลมสไตล์เกาหลี ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวรสชาติใหม่ โซจู ไอศกรีมเมลอน และ "น้ำด่าง อิชิตัน พลัส CBD" จากกัญชง ที่เข้ามาเสริมพอร์ตใหม่ เพื่อต่อยอดกลยุทธ์ของบริษัทที่ต้องการขยายกลุ่มสินค้า Non-Tea นอกเหนือจาก อิชิตัน กรีนที และเย็นเย็น น้ำจับเลี้ยงสมุนไพร ที่ยังคงความสามารถในการทำกำไรทะลุเป้า ทั้งหมดช่วยสนับสนุนอัตรากำลังการผลิตเดือนมีนาคมทะลุ 100 ล้านขวดต่อเดือน ซึ่งเป็นการผลิตสูงที่สุดเป็นครั้งแรกรอบ 12 ปีที่ก่อตั้ง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังไม่ได้รับผลกระทบจากภาษีความหวานที่เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว เนื่องจากได้ปรับสูตรเครื่องดื่มลดน้ำตาลลง ทำให้ไม่ต้องเสียภาษีเพิ่ม แล้วยังช่วยลดต้นทุนลงได้ เนื่องจากน้ำตาลมีการขยับราคาขึ้น การปรับสูตรครั้งนี้จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 21% และยังสามารถตอบโจทย์เทรนด์สินค้าด้านสุขภาพที่มาแรง
ฟากสินค้าส่งออก อิชิตันเดินหน้ากิจกรรมทางการตลาดรุกกลุ่มประเทศ CLMV และประเทศแถบตะวันออกกลาง คาดว่าปีนี้จะกลับมาเติบโตมากกว่า 5% ส่วนธุรกิจ ICHITAN OEM SERVICE สามารถปิดดีลลูกค้าใหม่รายใหญ่ 1 ราย คือ เครื่องดื่ม IF ที่เริ่มรับรู้รายได้แล้วในไตรมาส 1/2566 และยังอยู่ในระหว่างเจรจาปิดดีลกับอีกหลายบริษัท
แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ คาดว่าจะยังคงเติบโตต่อไป อานิสงส์จากการเป็นช่วงพีคที่สุดของหน้าร้อนที่ปีนี้อุณหภูมิร้อนจัด ประกอบกับปัจจัยหนุน 3 เด้ง การท่องเที่ยวในประเทศฟื้นตัวแรง, เทศกาลสงกรานต์คึกคัก คาดว่าจะมีเงินสะพัดถึง 1.25 แสนล้านบาท และสุดท้ายบรรยากาศการเลือกตั้งที่ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจหมุนเวียน จึงมั่นใจว่าจะช่วยส่งผลให้ผลประกอบการ Q2/2566 ของบริษัท มีโอกาสสูงที่จะโตต่อเนื่อง ทุบสถิตินิวไฮแบบไม่มีอะไรมากั้น สนับสนุนเป้าหมายที่วางไว้ คือมีอัตรากำไรขั้นต้นที่มากกว่า 20% รายได้รวมเพิ่มขึ้น 15% แตะระดับ 7,300 ล้านบาท ในปีนี้