JMT เตรียมออกขายหุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [4.60]% ต่อปีให้กับผู้ลงทุนสถาบัน และ ผู้ลงทุนรายใหญ่ (PP-II&HNW) โดย JMT ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรและหุ้นกู้ที่ "BBB+" จากทริสเรทติ้ง เสนอขายผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ เพื่อสร้างการเติบโตขยายฐานพอร์ตลูกหนี้ด้อยคุณภาพ
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ "JMT" ผู้นำธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ ธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ ธุรกิจนายหน้าประกันภัย และธุรกิจประกันภัย ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 วัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อนำไปใช้ในเป็นเงินลงทุนในการเข้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหาร และ/หรือ เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกลุ่มกิจการ
หุ้นกู้ดังกล่าวมีอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [4.60] %ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ คาดว่าจะเสนอขายในช่วงวันที่ 2, 6 และ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำทั้ง 9 แห่ง
นายสุทธิรักษ์ กล่าวว่า "ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีการดำเนินงานที่โดดเด่น และถือเป็นบริษัทบริหารหนี้ด้อยคุณภาพประเภทไม่มีหลักประกันเป็นผู้นำอันดับ 1 ของประเทศ โดยในปี 2565 เป็นปีที่ 7 ที่บริษัท ประสบความสำเร็จในด้านการดำเนินงานสามารถจัดเก็บหนี้ (Cash Collection) ได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยจัดเก็บกระแสเงินสดได้กว่า 5,548 ล้านบาท เติบโต 21% จากปีก่อนหน้า ซึ่งทำให้บริษัทมีรายได้รวมกว่า 4,410 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 1,746 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลประกอบการที่ดีที่สุดของบริษัทเป็นปีที่ 7"
ทั้งนี้ บริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรและหุ้นกู้ที่ระดับ "BBB+" แนวโน้ม Stable โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 สะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทลูกหลัก (Core Subsidiary) ของบริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจด้านการเงินของกลุ่ม และมีส่วนสำคัญที่ทำให้ผลการดำเนินงานของธุรกิจด้านการเงินของกลุ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ทาง ทริสเรทติ้ง ยังคาดว่าอุปทานสินเชื่อด้อยคุณภาพจะยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจัยผลักดันที่เกิดจากการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือที่ผ่อนปรนการจัดชั้นลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ จนกระทั่งถึงสิ้นปี 2566 นี้ ซึ่งทำให้ธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มที่จะเร่งนำสินเชื่อด้อยคุณภาพออกมาจำหน่ายมากยิ่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 จนถึงปี 2567 และน่าจะช่วยสนับสนุนแผนการซื้อหนี้ของบริษัท
ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือสอบถามข้อมูลผ่านสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Bualuang mBanking
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)* (โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน www.kasikornbank.com/kmyinvest ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) โทร. 02-888-8888 ต่อ 819
- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น CIMB THAI Digital Banking
- บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004
- บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (รวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขาย) โทร. 02-165-5555
- บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050
- บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-660-6688
- บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) โทร.02-638-5500
- บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-820-0100
*ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดให้มีหน่วยงานขายที่ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สำหรับการรับจองซื้อหุ้นกู้จากผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น (ไม่รวมถึงผู้ลงทุนสถาบัน)