บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก อุปกรณ์ตกแต่งทรงผม อุปกรณ์เสริมความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เครื่องครัว แบรนด์ดัง อาทิ SNAILWHITE, NAMU LIFE, OXE'CURE, SPARKLE, LESASHA, JASON, EMJOI, BEAR, iLIFE และ @HOME รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2566 ซึ่งมีผลกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 8.23 พร้อมลุยต่อ โดยมุ่งเป้ารายได้เติบโตร้อยละ 20
นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD กล่าวรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2566 ว่า "บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 390 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 2.17 โดยบริษัทฯ เตรียมความพร้อมด้านสต๊อกสินค้าให้เพียงพอในทุกจุดจำหน่ายเพื่อรองรับการเติบโตของช่องทางออฟไลน์ ส่งผลให้รายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมความงามของบริษัทฯ เติบโตได้ร้อยละ 15.00 นอกจากนี้การส่งออกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยังเติบโตได้ดีในอัตราร้อยละ 34.20 แม้ว่าการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวที่ช้ากว่าคาดการณ์บริษัทฯ ยังคงแผนการดำเนินงานเชิงรุกและมั่นใจความพร้อมด้านการขยายและต่อยอดกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ Retail และ Lifestyle เพื่อสร้างโอกาสและการเติบโตให้กับบริษัทฯ ทั้งยังจะช่วยดันรายได้ปี 2566 ให้เติบโตร้อยละ 20 ได้ตามเป้าหมายได้ในช่วงเวลาที่เหลือของปี
ทั้งนี้ ต้นทุนสินค้าขายสำหรับไตรมาส 1 ปี 2566 มีมูลค่า 143 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 36.57 ของรายได้จากการขาย โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.75 point เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2565 ที่มีต้นทุนสินค้าและบริการ 137 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.81 ของรายได้จากการขาย ผลสืบเนื่องจากสัดส่วนการขายเติบโตขึ้นมาจากผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่มีต้นทุนสูงกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โดยในไตรมาส 1 ปีนี้บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์เสริมความงามร้อยละ 51.96 ของรายได้จากการขาย ในขณะที่ไตรมาส 1 ปีก่อนมีสัดส่วนร้อยละ 46.17 ของรายได้จากการขาย
ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับไตรมาส 1 ปี 2566 มีมูลค่า 200 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 51.34 ของรายได้จากการขาย โดยลดลงร้อยละ 1.39 point เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 ที่มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 201 ล้านบาท หรือร้อยละ 52.73 ของรายได้จากการขาย โดยสอดคล้องกับแผน Synergy Roadmap ภายในกลุ่มบริษัทเพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานภายในกลุ่มของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
จากปัจจัยข้างต้น บริษัทฯมีผลกำไรจากการดำเนินงาน (Net Profit from Operating Performance) ในไตรมาส 1 ปีนี้ เท่ากับ 48 ล้านบาท ดีขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2565 ที่ 44 ล้านบาท โดยคิดเป็นอัตรากำไรจากการดำเนินงานเทียบกับรายได้จากการขายที่อัตราร้อยละ 12.25 และ ร้อยละ 11.56 ตามลำดับ
ด้านนโยบายการลงทุนบริษัทฯ ยังคงระมัดระวังในการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงิน โดยในไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้อื่นซึ่งมาจากการลงทุนจำนวน 25 ล้านบาท และการรับรู้ขาดทุนจากการตีมูลค่าสิทรัพย์ทางการเงินตามมาตรฐานการบัญชี จำนวน 69 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมของกิจการอยู่ที่ 2.41 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.58 ของรายได้รวม โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นพัฒนาผลการดำเนินงานจากกิจกรรมการขายสินค้าซึ่งเป็นกิจกรรมหลักของบริษัทฯ ควบคู่ไปกับหาโอกาสทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง"