'บมจ.ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ SFT' หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 ทำรายได้จากการดำเนินงานรวม 234.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.22% และมีกำไรสุทธิ 3.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,591.74% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ หลังออเดอร์สินค้าเพิ่มรับจังหวะเศรษฐกิจฟื้นตัว เดินหน้าเร่งทำตลาดบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน (Flexible Package) และ บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนการเติบโตตามเป้าหมายที่ 1,000 ล้านบาท
นายซุง ชง ทอย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 (มกราคม-มีนาคม) บริษัทฯ มีรายได้รวม 234.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.22% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ สะท้อนถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจการให้บริการฉลากฟิล์มหดรัดรูปที่แข็งแกร่ง ตอบสนองต่อความต้องการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์สินค้าของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้มีคำสั่งผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศและกลุ่มลูกค้าภาคอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีออเดอร์เพิ่มขึ้น
ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 3.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,591.74% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ แต่ลดลง 80.05% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบด้านต้นทุนวัตถุดิบพลาสติกและพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงมีค่าใช้จ่ายด้านผลตอบแทนของพนักงานที่เพิ่มขึ้น หลังจากขยายโรงงานแห่งใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรองรับแผนดำเนินงาน เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตาม SFT ประเมินว่าความเสี่ยงด้านต้นทุนการผลิตจะลดลงนับตั้งแต่ในไตรมาส 2/2566 เป็นต้นไป จากแนวโน้มราคาวัตถุดิบปรับลดลง รวมถึงดำเนินการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาโรงงานแห่งใหม่ (Solar Roof) ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่จะช่วยให้ภาพรวมการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับแผนดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ จะมุ่งทำตลาดฉลากฟิล์มรัดรูป (Shrink Sleeves Label) บรรจุภัณฑ์อ่อน (Flexible Packaging) และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Packaging) ที่สอดรับเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อมรองรับสินค้าที่ต้องการส่งออกไปยังต่างประเทศเพื่อรองรับออเดอร์จากลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม พร้อมยื่นขอใบรับรอง BRC ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัย คุณภาพ และการดำเนินการสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหาร เพื่อตอกย้ำถึงมาตรฐานการผลิตของบรรจุภัณฑ์อ่อนที่ได้มาตรฐานในระดับสากล สร้างโอกาสการขยายตลาดลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่ออัตราการใช้กำลังการผลิตเพื่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) และสนับสนุนเป้าหมายการดำเนินงานปีนี้ 1,000 ล้านบาทตามแผน