CHG ประกาศผลงานไตรมาสแรก มีรายได้ 1,716.2 ล้านบาท เติบโต 40% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 หลังผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหวนกลับมาใช้บริการ พร้อมรุกขยายพื้นที่ให้บริการและเปิดสาขาใหม่รองรับความต้องการใช้บริการที่เพิ่มขึ้น สร้างความเข้มแข็งธุรกิจอย่างยั่งยืน
นายแพทย์กำพล พลัสสินทร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 1,716.2 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 240.4 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการให้บริการในกลุ่มผู้ป่วยทั่วไป เช่น รายได้จากศูนย์รักษาโรคหัวใจ การผ่าตัดกระเพาะอาหาร รายได้ค่าบริการทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง การกลับมาใช้บริการของกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และรายได้โครงการประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ประกันตนที่เพิ่มขึ้น การกลับมารักษาของผู้ป่วยในโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง การปรับประมาณการใหม่ของรายได้ภาระเสี่ยงในปี 2566 รวมถึงรายได้จากการรับจ้างบริหารงานให้กับโรงพยาบาลภาครัฐ
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 และไตรมาส 1 ปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 โรงพยาบาลมีรายได้เติบโต 40% จากผู้ป่วยทั่วไป 45% และประกันสังคม 45% นับเป็นการเติบโตโดยภาพรวมของรายได้ที่เกิดขึ้นจากปริมาณการเข้ารับบริการที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการขยายพื้นที่การให้บริการ การเพิ่มศักยภาพในการรักษา การเพิ่มบุคลกรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย นอกจากนี้โรงพยาบาลยังสามารถขยายศักยภาพในการเข้าร่วมประมูลศูนย์หัวใจและการรับจ้างบริหารงานให้กับโรงพยาบาลภาครัฐ ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าและสร้างชื่อเสียงให้โรงพยาบาลเป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้น
สำหรับการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 บริษัทเตรียมเปิดศูนย์การแพทย์ Chularat Medical Center (ศูนย์มะเร็งครบวงจรแห่งแรกในจังหวัดสมุทรปราการ, ศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง, ศูนย์รักษาแผลเรื้อรัง, ศูนย์บำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง) และโรงพยาบาลจุฬารัตน์แม่สอด อินเตอร์ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 100 เตียง จะเปิดให้บริการในเฟสแรกจำนวน 59 เตียง ในการให้บริการกับกลุ่มผู้ป่วยทั่วไป ซึ่งเป็นคนไทยในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงชาวต่างชาติเร็ว ๆนี้
"บริษัทฯ ยังคงเน้นการให้บริการทางการแพทย์และให้ความสำคัญในการสร้างระบบบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน พร้อมกำหนดกลยุทธ์สร้างการเติบโตให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายศักยภาพในการรักษา การเพิ่มสัดส่วนการให้บริการระบบรักษาปกติ การเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขของประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสังคม รวมถึงให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการเติบโตของผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้" นายแพทย์กำพล กล่าว