"บมจ.ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย หรือ 24CS ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ปี 2566 กวาดรายได้งานก่อสร้าง 226.28 ล้านบาท พุ่ง 34.93% พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ และต่อยอดธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต ครอบคลุมกลุ่มผู้รับเหมาหลัก และกลุ่มลูกค้าธุรกิจ หนุนรายได้จากงานก่อสร้างและงานขายสินค้าควบคู่กันไป ดันเป้าเติบโต 20-25% ภายในปี 2566
นายยศวีย์ วัฒนธีระกิจจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ 24CS เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในงวดแรกของปี 2566 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2566) บริษัทฯ มีรายได้จากการก่อสร้างจำนวน 226.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 58.59 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.93 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิจำนวน 5.41 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 1.81 ของรายได้รวม
โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการก่อสร้างในไตรมาส 1/2566 เนื่องจากบริษัทฯ ชนะประมูลโครงการขนาดใหญ่ที่สำคัญที่ต่อเนื่องหลายโครงการ รวมถึงจำนวนและมูลค่าของโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและรับรู้รายได้ในปี 2566 สูงกว่าปีก่อนหน้า โดยในปี 2566 บริษัทฯ มีโครงการก่อสร้างที่สำคัญได้แก่โครงการก่อสร้างงานระบบประกอบอาคาร TUM 3.2 รายได้เพิ่มขึ้น 94 ล้านบาท และโครงการ JLK TOWER Sukhumvit รายได้เพิ่มขึ้น 71 ล้านบาท
ในส่วนของรายได้จากการขายสินค้าเท่ากับ 72.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าจำนวน 8.52 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.27 เนื่องจากบริษัทฯ เร่งการส่งมอบวัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้างและเร่งแผนงานก่อสร้างทำให้มียอดคำสั่งซื้อวัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วยรวมไปถึงคำสั่งซื้อจากโครงการก่อสร้างใหม่ในไตรมาส 1/2566
ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้เข้าประมูลงานใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้รับเหมาหลัก และกลุ่มลูกค้าธุรกิจ เสริมพอร์ตรายได้ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และสอดคล้องกับการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ฯที่กำลังฟื้นตัว โดยแบ่งสัดส่วนรายได้จากการก่อสร้าง และรายได้จากการขายสินค้า 60% และ 40% ตามลำดับ
ต่อจากนี้ไป 24CS ได้รุกธุรกิจไปอีกขั้น ด้วยการชูจุดเด่นการเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจงานระบบปรับอากาศและระบายอากาศ สนับสนุนโอกาสการเติบโตในอนาคตเพิ่มเติม พร้อมเดินหน้าเปิด บริษัท ทเวนตี้ โฟร์ โฮม จำกัด เพื่อสนับสนุนธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับระบบปรับอากาศรวมถึงการให้บริการผ่าน Application ภายใต้ชื่อ "24 Home" และเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ (Vending Machine) แห่งแรกและแห่งเดียวของเมืองไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2566 หวังสร้างรายได้ในส่วนของงานขายแบบรอบด้าน 360 องศา ควบคู่กับการต่อยอด Backlog ที่มีอยู่ในมือ 1,200 ล้านบาท ดันเป้าหมายรายได้ในปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้นราว 20-25 % จากปีก่อน