คิงส์เมน "K" กวาดรายได้ Q1/66 แตะ 192.5 ล้านบาท จ่อทยอยรับรู้รายได้งาน Interiors ในเลานจ์สนามบินสุวรรณภูมิ-ศูนย์การค้า Q2/66 เล็งโกยเงินโปรเจคใหม่ครึ่งปีหลังเข้าพอร์ตไม่ต่ำกว่า 290 ล้านบาทหนุนรายได้เทิร์นอะราวด์
บมจ.คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ "K" โชว์งบไตรมาส 1/2566 มีรายได้จากการให้บริการ 192.5 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานก่อนภาษี 6.46 ล้านบาท แต่ในไตรมาส 1/2566 มีการปรับปรุงรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีส่งผลให้เกิดขาดทุนสุทธิ 5.30 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร "วงศกร พิเศษสิทธิ์" เดินเกมรุกปรับกลยุทธ์รุกรับงานจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น จ่อทยอยรับรู้รายได้งาน Interiors ในเลานจ์สนามบินสุวรรณภูมิ-ศูนย์การค้า Q2/66 ล่าสุดตุน Backlog แล้ว 560 ล้านบาท เล็งคว้างานใหม่ในครึ่งปีหลังไม่ต่ำกว่า 290 ล้านบาท หนุนผลงานปีนี้กลับมาเทิร์นอะราวด์
บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) ("K") ผู้ประกอบธุรกิจออกแบบและตกแต่งงานแบบครบวงจร 4 ประเภท ประกอบด้วย1.ธุรกิจงานตกแต่งภายใน (Interiors), 2.ธุรกิจงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (Exhibitions), 3.ธุรกิจการตลาดทางเลือก (Alternative Marketing) และ 4.ธุรกิจงานพิพิธภัณฑ์และสวนสนุกแนวคิด (Museums & Thematic Park) รายงานต่อตลาหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2566 ว่า บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 192.5 ล้านบาท คิดเป็นการลดลง 6.5% (y-y) สาเหตุหลักมาจากสายธุรกิจงานตกแต่งภายในรับงานลดลงแต่เพิ่มรับงานในสายธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น เพราะสามารถบริหารให้มีกำไรได้เป็นที่น่าพอใจ และสามารถบริหารต้นทุนการให้บริการลดลงมาอยู่ที่ระดับ 163.11 ล้านบาท คิดเป็นการลดลง 14.5% (y-y) ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้น 29.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.4% (y-y) เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งกำไรส่วนใหญ่มาจากงานงานแสดงสินค้าและงานกิจกรรมทางการตลาดที่เริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน
จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีผลกำไรจากการดำเนินงานก่อนภาษี 6.46 ล้านบาท แต่เมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษี 11.77 ล้านบาท (ซึ่งเกิดจากการปรับปรุงรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี) ทำให้เกิดขาดทุนสุทธิ 5.30 ล้านบาท (เป็นของเฉพาะกิจการ 5.18 ล้านบาท ส่วนบริษัทย่อย 0.12 ล้านบาท) ขณะที่บริษัทย่อยทั้งเมียนมาร์และกัมพูชายังคงหยุดการดำเนินงาน เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ ยังไม่แน่นอนทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ โดยคณะผู้บริหารมีมติให้ปิดบริษัทย่อยทั้ง 2 ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการจดเลิกกิจการ
นายวงศกร พิเศษสิทธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ. คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ "K" เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งจากการประเมินมองว่าแผนการปรับโครงสร้างดังกล่าวจะค่อยๆสะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ หันมามุ่งเน้นรับงานธุรกิจจัดงานแสดงสินค้า และกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น ขณะที่งานธุรกิจก่อสร้างตกแต่งภายใน จะเน้นรับงานที่มีขนาดเล็กลง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการได้ทั่วถึง ส่งมอบงานได้รวดเร็ว ทำให้หมุนรอบการรับงานได้เร็วขึ้น ที่สำคัญสร้างมาร์จิ้นที่ดีให้กับบริษัทฯ
ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับงานใหม่ จากกลุ่มบริษัท มิราเคิล ซึ่งเป็นงานตกแต่งภายใน (Interiors) เลานจ์ ในสนามบินสุวรรณภูมิ ภายในโครงการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) มูลค่า 65 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 5 เดือน (พฤษภาคม-กันยายนนี้) ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 และจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาทันทีในไตรมาส 2/2566 นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้รับงาน Interiors ร้านค้าขนาดกลาง ภายในศูนย์การค้าเข้ามา 2 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยส่งมอบงานและรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 2-3/2566 นี้ด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ในไตรมาส 2/2566 บริษัทฯจะเริ่มรับรู้รายได้จากกลุ่มงาน Interiors เข้ามาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างโดดเด่น
ขณะเดียวกันในช่วงเดือนกันยายนนี้ บริษัทฯ ได้รับงานตกแต่งภายในของโรงแรมแห่งหนึ่ง มูลค่ากว่า 42 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้ ประมาณ 16 ล้านบาท ส่วนรายได้ที่เหลือจะรับรู้ต่อเนื่องในปี 2567 ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มี Backlog อยู่กว่า 560 ล้านบาท และในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีโอกาสที่จะงานใหม่ๆ อีกไม่ต่ำกว่า 290 ล้านบาทอย่างแน่นอน ทำให้บริษัทฯเชื่อมั่นว่า ในปี 2566 "K"จะกลับมาเทิร์นอะราวด์ตามแผนที่วางไว้อย่างแน่นอน