COM7 โชว์โค้งแรกของปี ผลงาน Outperform เติบโตมากกว่าภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนและตลาดไอทีในประเทศไทย ส่วน Q2/66 และในครึ่งปีหลัง มั่นใจเดินตามแผน พร้อมปรับเป้ารายได้ปี 66 โต 20% จากปีก่อน ชู 4 โฟกัสหลัก ได้แก่ การเติมพอร์ตสินค้าไฮมาร์จิ้นกลุ่ม Accessories - นำสินเชื่อ U-Fund เสริมทัพ - ต่อยอดแคมเปญเก่าแลกใหม่ Trade in Program - และประกันคุมเสี่ยงกับ iCare Insurance นอกจากนี้ แผนบุกธุรกิจค้าปลีกร้านขายยา-อาหารสัตว์เลี้ยงคืบหน้า เดินหน้าขยายอาณาจักรต่อเนื่อง
นายณรงค์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการสายงานขายและธุรกิจค้าปลีก บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยภาพรวมผลประกอบการปีนี้เดินหน้าตามแผน พร้อมปรับเป้ารายได้เติบโตจากปีก่อน 20% จากเดิมวางไว้ 15% รับผลงานไตรมาส 1/2566 ขณะที่ แนวโน้มไตรมาส 2/2566 มีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง เดือนเมษายนแม้เป็นช่วงสงกรานต์ และครึ่งแรกของเดือนพฤษภาคม 2566 ยังมีสัญญาณที่ดี จึงคาดว่าครึ่งปีแรกนี้จะเติบโตกว่าครึ่งปีแรกของปีก่อน
โดยภาพรวมสาขาภายใต้การบริหารของ COM7 ในไตรมาส 1/2566 มีจำนวน 1,284 สาขา เพิ่มขึ้น 124 สาขา เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 1,160 สาขา ประกอบด้วย BaNANA, Bb, B-Play, BKK, BeBePhone, E-quip, Franchise, iCare, King Kong Phone, Studio7, True Shop by Com7, U-Store และ Brand shop สำหรับสาขาที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการเข้าไปลงทุนซื้อสิทธิ์ในการบริหารร้าน BeBePhone จำนวน 106 สาขา รวมทั้ง การเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง และปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร
นายทรงธรรม บุญยะทรัพย์ Head of Business Expansion เปิดเผยถึง ในด้านช่องทางการจำหน่าย คาดว่าสิ้นปีนี้จะมี 1,400 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ชูโมเดลการบุกสาขาครอบคลุมต่างจังหวัดยังสร้างความสำเร็จให้เรา เนื่องจากสถิติการเปิดสาขาใหม่ของ COM7 ยังสามารถสร้างการเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ ยังมีทิศทางการเติบโตของรายได้จากสาขาเดิม (Same Store Sales Growth) อยู่ที่กว่า 10% สะท้อนกลยุทธ์บุกสาขาเพิ่มมาร์เก็ตแชร์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทต่อไป โดยปัจจุบัน ประเทศไทยมีประมาณ 928 อำเภอ ซึ่ง COM7 มีสาขาอยู่ที่ประมาร 260 อำเภอ จึงยังมีโอกาสขยาย โดยเฉพาะในอำเภอรองที่มีจำนวนประชากรในระดับสูง และจะมุ่งเน้นการเปิดสาขารูปแบบ Standalone ปัจจุบันมีประมาณ 60 สาขา คาดสิ้นปีมี 80 สาขา รวมถึง การต่อยอดธุรกิจที่เป็นโอกาส อาทิ รุกด้านการจัดกิจกรรมการตลาด ควบคู่การให้สินเชื่อ และประกัน รวมถึงธุรกิจใหม่ โดยเป็นการเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง
ด้านแผนการขยายธุรกิจร้านขายยาภายใต้แบรนด์ Dr.Pharma ซึ่งเป็นธุรกิจที่เข้าไปลงทุนร่วมกับกลุ่ม BDMS ปัจจุบันเปิดไปแล้ว 6 สาขา ในหลากหลายรูปแบบทั้ง Standalone และอยู่ในปั๊มน้ำมัน ตั้งเป้าสิ้นปีเดินหน้าสู่เป้าหมาย 15-20 สาขา ขณะที่ร้านอาหารสัตว์เลี้ยงในชื่อแบรนด์ "Pet Paw" ปัจจุบันเปิดนำร่องเรียบร้อยแล้ว 1 สาขา คาดสิ้นปีมี 10-15 สาขา เพิ่มช่องทางการเติบโตในธุรกิจค้าปลีก และต่อยอดอาณาจักร COM7 เพิ่มทราฟฟิคการใช้บริการในร้าน Standalone
นางสาวศันสนีย์ แสงโรจน์เพิ่มสุข สว่างเนตร Head of Marketing กล่าวเสริมว่า COM7 มี 4 เรื่องหลักที่เราจะโฟกัส คือ 1. Accessories (OEM) ทั้งการจำหน่ายผ่านแบรนด์ชั้นนำ (Inter Brand) สัดส่วน 85% ของตลาด และรุกสินค้า House Brand โดยจะมีร้าน BeBePhone เป็นฐานการขยายที่สำคัญ คาดปีนี้ ยอดขาย 500 ล้านบาท และ GP ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจาก House Brand มี GP ที่มากกว่า Inter Brand ประมาณ 20%
2. U-Fund โครงการสินเชื่อให้ลูกค้าสามารถผ่อนสินค้า มีฐานลูกค้าในระบบราว 186,000 คน และได้ปล่อยกู้ไปแล้วราว 5,000 ล้านบาท ลูกค้าจ่ายคืนกลับมาราว 2,600 ล้านบาท ด้วย NPL ที่ลดลงต่อเนื่องอยู่ที่ปะมาณ 3.5%
3. Trade in Program หรือแคมเปญเก่าแลกใหม่ มีการขยายช่องทางผ่านความร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ ประสบความสำเร็จมากขึ้น ต่อยอดมายัง BaNANA Sure ขายมือถือมือสอง คุณภาพเยี่ยม รับประกันและตรวจสอบโดยร้าน BaNANA เนื่องจากในปี 2565 COM7 รับเครื่องมือสองมาแล้ว 60,000 เครื่อง/ปี เตรียมเปิดรูปแบบเป็น Shop in Shop ในร้าน BaNANA สาขาแรก 15 มิถุนายน
และจากกระแสการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว ได้เปิดแคมเปญ เช่ามือถือเที่ยวรอบโลก ที่ BaNANA เริ่มต้น 199 บาท/วัน เนื่องจากเรามีทั้งเครื่องมือหนึ่งและมือสอง จะเริ่มให้บริการ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป
นอกจากนี้ กระแสแคมเปญ iPhone for life ที่โดดเด่น แตกต่าง ให้ทุกคนเป็นเจ้าของ iPhone ได้ง่าย และสามารถเปลี่ยน iPhone ได้ทุกปี โดยมีเครื่องมือทางการเงินจาก U-Fund สนับสนุน
4. iCare Insurance จะช่วยบริหารความเสี่ยงได้ ผ่านบริษัท พุทธธรรมประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่บริษัทเข้าไปลงทุนในช่วงไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา มีผลขาดทุน 36 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2565 และสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไร 6.5 ล้านบาทในไตรมาส 1/2566 และมีแนวโน้มเติบโตที่ดีในอนาคต
ทั้งนี้ ภาพรวมผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/2566 มีรายได้รวมอยู่ที่ 17,309.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.9% กำไรขั้นต้น 2,375.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% และกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 873.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยพอร์ตสินค้า (Product Mix) กลุ่ม Smart Phone มีสัดส่วน 56% Accessories 17% Tablet 14% และอื่นๆ 2% เติบโตทุกกลุ่มธุรกิจ ยกเว้นกลุ่มสินค้า IT Product ซึ่งมีสัดส่วน 10% ของพอร์ตรวม มีทิศทางลดลงตามสถานการณ์ในตลาดทั่วโลก จากก่อนหน้าได้รับปัจจัยสนับสนุนในช่วงโควิด-19 และการ Work from Home ด้านสินค้ากลุ่ม Apple ที่เปิดตัวใหม่ออกมา มีราคาที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา COM7 มีการทำการตลาดเพื่อสนับสนุนยอดขายที่เติบโต รวมทั้ง สินค้าในผลิตภัณฑ์กลุ่ม Accessories และสินค้า House Brand มีอัตรากำไรขั้นต้นในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง