บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ ("VGI") ผู้นำการตลาด Offline-to-Online ("O2O") โซลูชั่นส์ ผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย และ V-Click Technology Ltd (V-Click) บริษัทเทคโนโลยีการตลาดในประเทศไทยที่เชื่อมโยงแบรนด์ต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับตลาดยักษ์ใหญ่อย่างจีน ร่วมกับ Initiative Thailand เอเจนซี่สื่อระดับโลก และบริษัทในเครืออย่าง BPN, MBCS และ Reprise จัดงานสัมนา "Thought Leadership 2023: Growth Beyond Thai Audience" เพื่อเปิดเผยโอกาสสำคัญที่แบรนด์ไทยสามารถเติบโตและก้าวข้ามตลาดผู้บริโภคไทยไปสู่ตลาดผู้บริโภคจีน ที่มีศักยภาพในการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
ก่อนการระบาดของ COVID-19 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนสูง 11 ล้านคน นับเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและยังมีมูลค่าสูงถึง 0.5 ล้านล้านบาท นับเป็นส่วนแบ่งของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดได้ราว 28% นอกจากนี้ในปี 2565 ยังพบว่าประเทศจีนมีการลงทุนในประเทศไทยมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจำนวนชาวจีนที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน คือมีจำนวน 0.5- 1ล้านคน และถูกคาดการณ์ว่าในปี 2571 จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1-1.8 ล้านคน Initiative Thailand ได้รวบรวมข้อมูลจากงานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผลสำรวจต่างๆเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนในประเทศไทย และได้แบ่งกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวและกลุ่มผู้พักอาศัย จำแนกลงลึกไปกว่านั้นด้วยการแบ่งสไตล์การท่องเที่ยวตามพฤติกรรมของ นักท่องเที่ยวจีนออกเป็น 5 กลุ่ม คือ 28 % ท่องเที่ยวเพื่อค้นพบวัฒนธรรมและผู้คนใหม่ๆที่ไม่เคยรู้จัก, 25 % เที่ยวเพื่อรีเซ็ตตัวเองและผ่อนคลาย, 22% เที่ยวเพื่อดื่มด่ำและแชร์โมเมนต์, 11% เที่ยวเพื่อค้นพบการผจญภัยครั้งใหม่ และ 15% เที่ยวเพื่อหามิตรภาพ ส่วนชาวจีนที่อาศัยในประเทศไทยจากข้อมูลของ True Analytics พบว่ากว่า 62% เป็นช่วงชีวิตของวัยทำงาน สามารถแบ่งกลุ่มตามอาชีพได้แก่ เจ้าของธุรกิจ, พนักงานออฟฟิศ, พนักงานโรงงาน, แม่กับลูก, นักศึกษามหาวิทยาลัย และกลุ่มคนเกษียณอายุ
นอกจากนี้ยังได้เผย 4 วัฒนธรรมชาวจีนที่น่าสนใจ และเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้แบรนด์และนักการตลาดไทย เข้าใจผู้บริโภคชาวจีนได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นคือ 1) อาณาจักรแห่งเอกภาพ ผู้บริโภคจีนให้ความสำคัญเรื่องความเป็นหนึ่งเดียว จึงชื่นชอบที่จะอยู่ในสถานที่ที่มีคนจีนอยู่จำนวนมาก รวมไปถึงการเลือกใช้แพลตฟอร์มในการสื่อสาร จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องใช้เทคนิคการกำหนดเป้าหมายแบบเรียลไทม์ รวมทั้งการใช้ภาษาจีนและข้อมูลเชิงลึก เพื่อเชื่อมต่อกับผู้บริโภคจีนในประเทศไทย เช่น การใช้สื่อ OOH, Pop-up events และการร่วมมือกับบริษัททัวร์ 2) เปิดโลก เปิดประสบการณ์ใหม่ ผู้บริโภคจีนมองหาประสบการณ์ที่จะช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากชีวิตประจำวันเดิม และแบรนด์ที่สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ครบครันได้ก็จะสามารถเข้าถึงชาวจีนได้อย่างง่ายดาย 3) ปลดปล่อยตัวตนของชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทย พวกเขาสามารถเผยถึงความชื่นชอบส่วนบุคคลได้อย่างเต็มที่ รวมถึงเรื่องความเชื่อทางศาสนา, การรับรู้เกี่ยวกับ LGBTQ+ และการเล่นเกม โดยแบรนด์สามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อดึงดูดให้ชาวจีนเข้าร่วมและได้รับประสบการณ์ที่หลากหลายและ 4) ซื้อตามกันจากการแชร์ที่จริงใจ ผู้บริโภคจีนกำลังมองหาความเรียลและคุณภาพระดับพรีเมี่ยม รวมทั้งประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งอินฟลูเอนเซอร์ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยการันตีแบรนด์ว่ามีคุณภาพรวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง โดยกลยุทธ์การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในจีนนั้นเน้นการสร้างเนื้อหาแบบออร์แกนิคในหลากหลายแพลตฟอร์ม เนื่องจากสามารถสร้างประสิทธิภาพได้สูงสุดนั่นเอง นอกจากนี้ VGI และ V-Click ยังได้ร่วมแชร์ข้อมูลในประเด็น "อะไรคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และความท้าทายของนักการตลาดที่ไม่ควรพลาด หากต้องการขยายตลาดหรือสื่อสารกับกลุ่มคนจีน" โดยคุณชมพูนุช อติพรพาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจของ V-Click Technology เผยถึงกลุ่มของชาวจีนที่แบรนด์ควรให้ความสนใจคือ นักท่องเที่ยววัยรุ่นจีนชาว Gen Z ที่มีจำนวน 260 ล้านคนคิดเป็น 4% ของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งหมด โดยกิจกรรมยอดฮิตของคนกลุ่มนี้คือ Glamping ที่เห็นได้จากยอดการโพสต์เกี่ยวกับกิจกรรมนี้สูงถึง 410,000 โพสต์ และสร้าง Interaction มากกว่า 65 ล้านครั้ง ด้านคุณเกร็ดรดา เบญจอาธรศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากลยุทธ์บริษัท VGI ได้เสริมเรื่องพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของชาวจีน โดยอ้างอิงจากข้อมูลของ China UnionPay พบว่าในปี 2562 มียอดการใช้จ่ายตลอดปีสูงถึง 96 พันล้านบาท ซึ่ง Top 3 อุตสาหกรรมที่ชาวจีนชื่นชอบได้แก่ 1. ค้าปลีก 2. วัฒนธรรม, กีฬาและความบันเทิง 3. อาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเทรนด์การช้อปปิ้งแบบล้างแค้นที่มียอดการใช้จ่ายต่อคนสูงถึง 10,500 บาท คุณอรนุช รุจิราวรรณ ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการขายบริษัท VGI กล่าวเพิ่มเติมว่า 7 สถานีบีทีเอสยอดฮิตที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่รองรับไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวที่หลากหลาย เช่น การช้อปปิ้งแบรนด์หรู การสัมผัสกับอาหารสตรีทฟู้ด และการสนุกกับสายมูเตลู เช่นสถานีสยาม อโศก ชิดลม พร้อมพงษ์ สะพานตากสิน สนามกีฬาแห่งชาติ และหมอชิต ทั้งนี้ด้วยความเชี่ยวชาญของ V-Click ที่สามารถเชื่อมโยงแบรนด์ต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับตลาดยักษ์ใหญ่ของจีน แบรนด์และนักการตลาดไทยจะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนในทุกช่วงการเดินทาง ด้วยกลยุทธ์การตลาด Offline-to-Online ("O2O") โดยเริ่มจากการสร้างความตระหนักรู้ผ่าน KOL ที่ทำรีวิวและแนะนำบริการหรือผลิตภัณฑ์ผ่านแอปพลิเคชันที่นิยมใช้ในจีนเท่านั้น ผสานกับการโฆษณาเพื่อสร้างการจดจำในแบรนด์และเพิ่ม engagement ผ่านสื่อ VGI ที่ครอบคลุมทั้งระบบขนส่งสาธารณะและอาคารสำนักงานรวมถึงอาคารที่พักอาศัยของชาวจีนที่พำนักในไทยด้วย