โดยธรรมชาติแล้ววงจรการนอนหลับของเด็กแรกเกิดยังไม่แบ่งกลางวันกลางคืน ดั้งนั้น เด็กจึงหลับและตื่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง และจะตื่นบ่อยเมื่อรู้สึกหิว เนื่องจากกระเพาะอาหารกักเก็บนมได้ไม่มาก ซึ่งในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังคลอดเด็กอาจจะนอนหลับนานช่วงละ 4 ชั่วโมง จากนั้นจึงตื่นขึ้นมากินนมและเล่นอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนจะหลับไปอีกครั้ง คิดเป็นชั่วโมงการนอนเฉลี่ยวันละ 12-16 ชั่วโมง
และรูปแบบการนอนจะเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเด็กอายุได้ประมาณ 3 เดือน โดยเด็กจะนอนกลางวันน้อยลง และมีช่วงการนอนในตอนกลางคืนยาวนานขึ้น ไม่ตื่นกลางดึกบ่อยเหมือนช่วงแรกๆ เมื่อโตขึ้น ชั่วโมงการนอนของเด็กจะลดลงเรื่อยๆ จนอยู่ที่วันละ 8-10 ชั่วโมง เมื่ออายุ 13-18 ปี
คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างนิสัยการนอนหลับที่เหมาะสมและเป็นเวลาให้กับลูกได้ตั้งแต่แรกเกิด โดยการไม่ปล่อยให้ลูกนอนกลางวันติดต่อกันนานเกิน 4 ชั่วโมง จัดให้ลูกนอนบนเตียงเมื่อเริ่มง่วงวิธีนี้เป็นการฝึกให้ลูกคุ้นเคยกับการนอนบนเตียงของตัวเอง และฝึกให้เด็กกล่อมตัวเองหลับไปโดยไม่ต้องให้คุณแม่อุ้มกล่อมนอน
ตอนกลางคืนควรจัดให้ลูกนอนในสถานที่เงียบสงบ พยายามอย่าให้ลูกตื่นตอนกลางดึกบ่อยๆ หากจำเป็นต้องให้นมหรือเปลี่ยนผ้าอ้อม ควรทำด้วยความรวดเร็วและไม่เปิดไฟสว่าง เพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นให้เด็กตื่นเต็มตา เมื่อลูกเริ่มส่งเสียงและดิ้น อย่าเพิ่งรีบเข้าไปอุ้มให้รอดูก่อนสัก 2-3 นาที ว่าลูกหลับต่อด้วยตัวเองหรือไม่ หากร้องให้กล่อมและตบก้นเบาๆ
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจ คือ "ท่านอนของลูก" แนะนำจัดให้ลูกนอนหลับในท่านอนหงาย ซึ่งเป็นท่าที่ปลอดภัยกว่าท่านอนคว่ำหรือนอนตะแคง ลดโอกาสเสี่ยงที่ลูกจะเสียชีวิตเฉียบพลันจากการนอนหลับไม่ตื่นหรือโรคไหลตายในทารก ซึ่งมักจะเกิดกับเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี