ประเด็นสำคัญ:
- จีเอชแอล ให้บริการ Alipay+ สำหรับ 2,600 ร้านค้าท้องถิ่นในประเทศไทย โดยร้านค้าสามารถรับชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดนจากโมบายวอลเล็ตชั้นนำของเอเชียได้แล้ว
- ผู้ประกอบการธุรกิจในประเทศไทยในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตั้งแต่การค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม (F&B) ไปจนถึงการบริการต้อนรับ และสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศจะได้รับประโยชน์จากการให้บริการนี้
- จิม ทอมป์สัน และพรีเมี่ยมเอาท์เล็ทต่างๆ จะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือแบบพันธมิตรในครั้งนี้
จีเอชแอล ซิสเต็ม เบอร์ฮาด (จีเอชแอล) เป็นบริษัทชั้นนำด้านการให้บริการการชำระเงินระดับภูมิภาคอาเซียน เปิดให้บริการรับชำระเงินด้วยอาลีเพย์พลัส (Alipay+) สำหรับร้านค้าท้องถิ่นมากกว่า 2,600 รายในประเทศไทย เพื่อรองรับการชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดนจากโมบายวอลเล็ตชั้นนำต่าง ๆ ของเอเซีย ได้แก่ AlipayHK (เขตบริหารพิเศษฮ่องกง), Kakao Pay (เกาหลีใต้), และ Touch 'n Go eWallet (มาเลเซีย) เพิ่มเติมนอกเหนือจาก Alipay (จีนแผ่นดินใหญ่) ที่ร้านค้าสามารถรับชำระมาแล้วตั้งแต่ปี 2558
ปัจจุบันนี้ นักท่องเที่ยวจากประเทศต่าง ๆ ที่มาเยือนเมืองไทย สามารถชำระเงินด้วยโมบายวอลเล็ตจากประเทศตนเองกับร้านค้ารีเทลได้มากกว่า 5,000 ร้าน โดยใช้เทคโนโลยีจาก GHL ซึ่งเป็นพันธมิตรของอาลีเพย์พลัส (Alipay+) แพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลและการตลาดข้ามพรมแดนระดับโลกของแอนท์กรุ๊ป โดยธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่จะได้รับประโยชน์ ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก, ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) ไปจนถึงธุรกิจบริการและสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ
ตามประกาศของรัฐบาลในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 มีนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆเข้ามาในประเทศไทยมากถึง 6.15 ล้านคน ซึ่งเกินเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดการณ์ไว้ การกลับมาอีกครั้งของนักท่องเที่ยวนี้ พวกเขามีความคาดหวังมากขึ้นเกี่ยวกับประสบการณ์การเดินทางและการใช้จ่ายตามร้านค้าปลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อนักท่องเที่ยวจำนวนมากคุ้นเคยกับประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่นผ่านโมบายวอลเล็ตของประเทศตนเอง
นายปริญญา จินันทุยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอชแอล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "จากการเป็นพันธมิตรที่ยาวนานของ GHL และ Alipay นำมาสู่ความร่วมมือครั้งล่าสุดกับอาลีเพย์พลัส (Alipay+) ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ร้านค้าท้องถิ่นสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย โดยการรับชำระเงินด้วยวิธีที่ลูกค้าคุ้นเคยและสะดวก ความร่วมมือนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของประเทศไทยที่ต้องการผลักดัน "เศรษฐกิจแบบไร้เงินสด" (Cashless Economy) ส่งเสริมการเข้าถึงทางการเงินและช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อปริมาณธุรกรรมดิจิทัลเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระบบเศรษฐกิจจะได้รับประโยชน์จากความโปร่งใส ความมีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยซึ่งส่งผลเชิงบวกกับหลายภาคส่วนและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวม" จิม ทอมป์สัน บริษัทผู้ผลิตผ้าไหมที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยเป็นหนึ่งในแบรนด์ธุรกิจท้องถิ่นรายแรก ๆ ที่ให้บริการนี้ และเป็นตัวอย่างความสำเร็จของธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากความร่วมมือนี้ ด้วยการเป็นต้นกำเนิดของศิลปะจากการทำผ้าไหมที่ยอดเยี่ยม ปัจจุบัน จิม ทอมป์สัน เป็นไอคอนิกแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกจากประเทศไทยที่มีชื่อเสียงด้วยผลิตภัณฑ์ผ้าไหมที่สวยงาม และมีผลิตภัณฑ์และบริการที่มากกว่าผ้าไหม (Beyond Silk) ทำให้จิม ทอมป์สัน เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รักของทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ
คุณนันท์นภัส เวโรจนวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด จิม ทอมป์สัน กล่าวว่า "ด้วยการบริการรับชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดน ปัจจุบัน จิม ทอมป์สันให้บริการรับชำระเงินดิจิทัลที่คุ้นเคยและสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งของพวกเขา นักท่องเที่ยวจากจีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และมาเลเซีย ซึ่งคุ้นเคยกับการใช้โมบายวอลเล็ตในการชำระเงิน สามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ราบรื่นและไม่ยุ่งยากอีกต่อไป โดยช่วยเสริมสร้างความพึงพอใจ และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าในระยะยาวอีกด้วย"
ดร.เชอรี่ ฮวง ผู้จัดการทั่วไปของอาลีเพย์พลัส (Alipay+) ส่วนบริการการค้าออฟไลน์ แอนท์กรุ๊ป กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า "พฤติกรรมนักท่องเที่ยวในปัจจุบันไม่เหมือนกับนักท่องเที่ยวในช่วงก่อนการแพร่ระบาด โดยนักท่องเที่ยวในปัจจุบันจำนวนมากคุ้นเคยกับไลฟ์สไตล์แบบดิจิทัลไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็ตาม ความร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศไทยอย่าง GHL ทำให้ธุรกิจร้านค้าในประเทศไทยจำนวนมากสามารถรับการชำระเงินแบบดิจิทัล อย่างอีวอลเล็ตได้ นับเป็นวิธีการชำระเงินที่ผู้บริโภคชาวเอเชียนิยมใช้ ช่วยให้ประสบการณ์การชำระเงินสะดวก และไม่ยุ่งยากอีกต่อไป"
นักท่องเที่ยวจะสามารถเพลิดเพลินกับการจับจ่ายใช้สอยและความบันเทิงในประเทศไทยได้โดยไม่มีข้อจำกัด โดยพวกเขาสามารถใช้โมบายวอลเล็ตที่ใช้เป็นประจำในประเทศตนเองได้ ตามแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม เช่น พรีเมี่ยมเอาท์เล็ททั้ง 6 แห่ง ที่ชะอำ เขาใหญ่ พัทยา อยุธยา ภูเก็ต และกระบี่
เกี่ยวกับอาลีเพย์พลัส (Alipay+)
อาลีเพย์พลัส (Alipay+) นำเสนอโซลูชันการชำระเงินผ่านโมบายล์เพย์เมนท์ และโซลูชันการตลาดระดับโลกที่ช่วยเชื่อมต่อผู้ค้ากับกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) ที่หลากหลายจากประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทั่วโลก ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ช่องทางการชำระเงินในประเทศเพื่อทำธุรกรรมในตลาดข้ามประเทศได้อย่างราบรื่น และยังได้รับข้อเสนอทางการตลาดจากผู้ค้าผ่าน Alipay+ อีกด้วย Alipay+ พัฒนาขึ้นโดยแอนท์กรุ๊ป เจ้าของและผู้ให้บริการอาลีเพย์ หนึ่งในผู้นำด้านดิจิทัลโอเพ่นแพลตฟอร์มระดับโลก
เกี่ยวกับ จีเอชแอล ซิสเต็ม เบอร์ฮาด
ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันการชำระเงินชั้นนำระดับอาเซียน จีเอชแอลได้ขยายการให้บริการไปยัง 6 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ประเทศไทย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ และออสเตรเลีย - ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากกว่า 434,400 จุดบริการรับชำระเงินทั่วภูมิภาค ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีฟินเทคระดับภูมิภาค จีเอชแอลสนับสนุนวิวัฒนาการการชำระเงินที่กำลังเปลี่ยนแปลงแนวทางการใช้จ่ายในปัจจุบัน โดยเสนอตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการและผู้บริโภค
จีเอชแอลเป็นผู้ให้บริการรับชำระเงินชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน โดยให้บริการช่องทางการรับชำระเงินมากกว่า 100 ช่องทางระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยมีปริมาณการรับชำระเงินผ่านระบบมากกว่า 1.5 พันล้านรายการต่อเดือน นอกจากเป็นเครือข่าย prepaid credit และเป็น bill collection ที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซียแล้ว จีเอชแอลยังสนับสนุนการทำงานอย่างยั่งยืนของผู้ประกอบการขนาดย่อม (MSMEs) โดยการให้บริการทางการเงินและบริการอื่นๆเพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ
จีเอชแอลเป็นบริษัทที่ลงทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และมีมูลค่าตลาดมากกว่า 942 ล้านริงกิต ณ วันที่ 19 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2566 โดยจีเอชแอลเป็นบริษัทที่ลงทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของมาเลเซียตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 (www.ghl.com)