'บมจ.ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ หรือ ETL' รุกขยายการลงทุนตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มศักยภาพให้บริการ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของระบบโลจิสติกส์ แบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain) รับโอกาสการเติบโตในอนาคต
'บมจ.ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ หรือ ETL' ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน เดินหน้าขยายการลงทุนตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container) เพิ่มอีก 30 ยูนิต ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 66 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของระบบโลจิสติกส์ แบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain) พร้อมจัดทำโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงระบบ Cold Chain และการเพิ่มมูลค่า เพื่อรักษาสภาพสินค้าให้คงคุณภาพเดิมจนถึงลูกค้า B2B พร้อมรองรับโอกาสการเติบโตในอนาคต
นางสาว กฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ ETL ผู้ให้บริการโลจิสติกส์สัญชาติไทยที่ประกอบธุรกิจหลักได้แก่บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Transportation Carrier) ครบวงจร เปิดเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่อย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด อาจจะนำมาซึ่งความเสี่ยง แต่ก็เป็นโอกาสที่มาพร้อมกันการมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่หลายผู้ประกอบการณ์นำเข้ามาปรับใช้ แต่ด้วยความคาดหวังของลูกค้าใหม่และแบบแผนธุรกิจใหม่ๆ นั่นจึงส่งผลให้ บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสการเติบโตในธุรกิจโลจิสติกส์ แบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain) เพราะการขนส่งสินค้าที่มีการควบคุมอุณหภูมิ จะต้องขนส่งภายใต้อุณหภูมิที่กำหนด และบางสินค้ามีอายุการใช้งานที่จำกัด จึงต้องการการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือ และระยะเวลาการขนส่งที่แน่นอน ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีความซับซ้อนและยากที่สุด โดยเฉพาะสำหรับบริษัทให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน อย่างไรก็ตามความเร็วไม่ใช่สิ่งที่ผู้ส่งสินค้าต้องการเท่านั้น แต่รวมถึงการให้ความสำคัญกับคุณภาพ ก่อนถึงกลุ่มลูกค้า B2B หรือ Business-to-Business โดยสินค้าที่ขนส่งถึงปลายทางต้องมีคุณภาพและอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ล่าสุดบริษัทฯ จึงได้ขยายการลงทุนเพิ่มตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container) อีก 30 ยูนิต ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2566 ส่งผลให้ในปัจจุบัน บริษัทฯ มีคอนเทนเนอร์แบบ Reefer Container ทั้งหมด 50 ยูนิต เพื่อให้รองรับต่อความต้องการในการใช้งานสินค้าที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ตลอดการขนส่งสินค้าเพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าไว้ เช่น ยาและเวชภัณฑ์ ผลไม้ ดอกไม้ อาหารและเครื่องดื่ม ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าประเภท Fast Moving Consumer Goods (FMCG) หรือสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปที่มีการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วและมีราคาถูกจากต้นทุนที่ต่ำ ทำให้ต้องพยายามขายหน่วยสินค้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลาที่รวดเร็ว ต่อเนื่อง และคงคุณภาพสินค้าที่สูง เพื่อสร้างความมั่นใจและประทับใจในการบริการ และคงความเป็นลูกค้าของ ETL อย่างต่อเนื่องในอนาคต
กรรมการผู้จัดการบริษัท ETL กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยเป้าหมายขยายการลงทุนตู้คอนเทนเนอร์แบบควบคุมอุณหภูมิ บริษัทฯ ได้จัดทำโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงระบบ Cold Chain และการเพิ่มมูลค่าผ่านโครงสร้างดังกล่าว เพื่อรักษาสภาพสินค้าให้คงคุณภาพเดิมจนถึงมือผู้บริโภค โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความจำเป็นต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์แบบควบคุมอุณหภูมิ ประกอบด้วย ยาและวัคซีน ซึ่งต้องเก็บรักษาที่อุณหภูมิระหว่าง 2 ถึง 8 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาประสิทธิภาพของวัคซีน อาหารและเครื่องดื่ม ที่ต้องขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพและปลอดภัยตามข้อกำหนดทางกฎหมาย นอกจากนี้ ยังรวมถึงสินค้าที่อ่อนไหวต่ออุณหภูมิ เช่น ดอกไม้, เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ที่มีความต้องการในการควบคุมอุณหภูมิภายในคอนเทนเนอร์อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการคุ้มครองผลิตภัณฑ์จากความเสียหายที่เกิดจากอุณหภูมิเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด ETL จึงมีระบบวัดอุณหภูมิภายในตู้คอนเทนเนอร์และแสดงผลให้คนขับรถทราบ รวมถึงมีระบบส่งข้อมูลอุณหภูมิอัตโนมัติมายัง Command Center แบบ Real Time เพื่อให้ลูกค้าของบริษัทฯ มั่นใจได้ว่าการขนส่งของ ETL สามารถรักษาระดับอุณหภูมิได้ตามความต้องการของลูกค้าเพื่อคงคุณภาพของสินค้าไว้ได้ตลอดเที่ยวการขนส่ง