บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จากัด (มหาชน) นำโดย คุณแอน - จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า จากผลสำรวจการวัดเรตติ้งสื่อทีวีของบริษัทวิจัยนีลเส็นพบว่า เรตติ้งของสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลช่อง JKN18 ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยค่าเฉลี่ยเรตติ้ง 2 ไตรมาสแรกปี 2566 ของช่อง อยู่ที่ 0.099 เพิ่มขึ้น 57.14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 และยังเป็นช่องที่เติบโตสูงที่สุดในกลุ่มช่องดิจิทัลทีวีประเภทธุรกิจ โดยสามารถเข้าถึงผู้ชมกว่า 23.5 ล้านคน คิดเป็น 40% ของผู้ชมทีวีทั้งประเทศ
ในส่วนช่อง JKN-CNBC สถานีข่าวเศรษฐกิจ การเงินและการลงทุน ที่ออกอากาศบนแฟลตฟอร์ม IPTV ทั้ง AIS PLAY และ 3BB Giga TV ก็มีแนวโน้มการเติบโตของผู้ชมที่ดี นับจากการออกอากาศครั้งแรกในเดือนกันยายน ปี 2565 โดยล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2566 มียอดผู้ชมกว่า 1.96 ล้านคนต่อเดือน โดยมียอดผู้ชมมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มช่องข่าวเศรษฐกิจของ 3BB Giga TV
คุณแอน-จักรพงษ์ กล่าวว่า การที่ช่อง JKN18 ได้รับความนิยมจากผู้ชมเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการวิเคราะห์พฤติกรรมการรับชมของผู้ชมจากข้อมูลเรตติ้ง และนำมากำหนดกลยุทธ์ทั้งการจัดผังรายการ และคัดเลือกคอนเทนต์ เพื่อตรึงผู้ชมให้รับชมต่อเนื่องตลอดทั้งวันด้วยกลุ่มคอนเทนต์หลักของช่อง ได้แก่ กลุ่มรายการข่าว สารคดีสัตว์โลกที่เรามีมากที่สุด ภาพยนตร์ฟอร์ยักษ์ ซีรีส์อินเดียสัปดาห์ละ 10 เรื่อง กีฬามวยไทยที่ออกอากาศทุกวันซึ่งเป็นรายการที่มีเรตติ้งสูงที่สุดของช่อง และยังมีกีฬาต่างประเทศ รวมถึงไฮไลท์คอนเทนต์ประจำปีอย่างการถ่ายทอดสดการประกวดมิสยูนิเวิร์สอีกด้วย
ในส่วนของช่อง JKN-CNBC ที่ออกอากาศผ่านทาง AIS PLAY ช่อง 642 และ 3BB Giga TV ช่อง 608 นั้น เรามองว่าเป็นช่องทางที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของช่องที่เป็นคนเมือง มีสนใจรายการข่าวเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน รวมถึงการผลิตรายการภายใต้มาตรฐานของสถานีข่าว CNBC ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีความน่าเชื่อถือ ทั้งในเรื่องการนำเสนอ และข้อมูลข่าวที่แม่นยำ จึงทำให้ฐานผู้ชมเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยจากการที่มีฐานผู้ชมเพิ่มขึ้นของทั้ง 2 ช่อง จะเป็นกลไกสำคัญที่จะส่งผลไปถึงธุรกิจคอมเมิร์ซหรือการจำหน่ายสินค้าผ่านทางหน้าจอทีวีของ JKN ด้วย เพราะจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นและช่วยขยายฐานลูกค้าของบริษัทให้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย รวมถึงการนำเสนอสินค้าในกลุ่มภายใต้ ANNE BRAND ทั้งสินค้าสุขภาพ ความงาม และเด็ก ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้ชมของทั้ง 2 ช่องที่เป็นกลุ่มผู้ชมอายุ 30 ปีขึ้นไป บริษัทจึงมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายได้แน่นอน และนอกจากนี้ JKN ยังมีช่อง JKN Hi-Shopping ที่เป็นทีวีโฮมช้อปปิ้งเน้นรายการขายสินค้าเป็นหลัก โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้ากว่า 2.5 ล้านราย ซึ่งเมื่อรวมกันทั้ง 3 ช่องทาง จะทำให้ JKN มีความแข็งแกร่งกว่าคู่แข่งในตลาด
จากข้อได้เปรียบในหลาย ๆ ด้าน ที่ JKN เป็นทั้งเจ้าของสื่อที่มีผู้ชมเติบโตต่อเนื่อง มีสินค้าเป็นของตัวเอง มีสตูดิโอสำหรับถ่ายทำรายการเอง และระบบสนับสนุนการขายทั้งทีม Tele Marketing คลังสินค้า และระบบขนส่งที่ได้มาตราฐาน จะช่วยผลักดันให้ทั้งธุรกิจสื่อ และธุรกิจคอมเมิร์ซ กลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้ ANNE BRAND ให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ ได้อย่างรวดเร็ว และเติบโตอย่างยั่งยืน"