ในปัจจุบันทุกธุรกิจกำลังตื่นตัวเรื่องการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนจากแนวคิด ESG เช่นเดียวกับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการปรับเปลี่ยนไปสู่ยุคของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ รถยนต์ EV finbiz by ttb จึงวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์ต้องเผชิญ พร้อมแนะโอกาสในการปรับตัวเพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโต
รถยนต์ EV เติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ประเมินการแข่งขันในตลาดรถยนต์ EV ทั่วโลกมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น เพราะผู้ผลิตหลายรายปรับลดราคาขายลงเฉลี่ย 2-10% กระตุ้นให้คนหันมาสนใจรถยนต์ EV อย่างรวดเร็ว สำหรับในประเทศไทยก็มียอดจดทะเบียนรถยนต์ EV เพิ่มขึ้นถึง 17 เท่าภายในเวลาเพียง 3 ปี และคาดว่าในปี 2023 นี้ยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่ง EV จะสูงถึง 40,812 คัน หรือเพิ่มขึ้น 322% ส่วนหนึ่งมาจากแรงสนับสนุนของภาครัฐที่ตั้งเป้าให้ไทยผลิตรถยนต์ EV ให้ได้ 30% ภายในปี 2030 หรือ 7 ปีข้างหน้า
ขณะที่สถานการณ์ของรถยนต์ EV ทั่วโลกก็เติบโตเช่นกัน BloombergNEF หน่วยงานวิจัยข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมพลังงาน คาดว่า ในปี 2026 รถยนต์ EV จะมีราคาเทียบเท่ารถยนต์สันดาป ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น การลดต้นทุนแบตเตอรี่ และการขยายกำลังการผลิตจนได้กำไรของกลุ่มผู้ผลิต จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปสู่รถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มตัว
ทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ เมื่อรถยนต์ EV เติบโต
การแข่งขันด้านราคาในตลาดรถยนต์ EV ที่รุนแรงขึ้น จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่กระทบตลาดรถยนต์ทั่วโลก โดยมีสาเหตุดังนี้
ทำไมแนวคิด ESG จึงผลักดันรถยนต์ EV ให้ยิ่งเติบโตเร็วขึ้น
เพราะทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ทั้งภาครัฐและเอกชนได้มีการออกทั้งกฎหมายและนโยบาย เพื่อผลักดันเรื่อง ESG ให้เป็นวาระโลกและวาระแห่งชาติ อาทิ
- ประเทศไทยตั้งเป้าผลิตรถยนต์ EV ให้ได้ 30% ภายในปี 2030 ซึ่งเป็นปีที่ไทยมีเป้าหมายสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 40%
- กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำลังร่าง พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแบบคาร์บอนต่ำ ตั้งเป้าหมายประเทศไทยจะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2065
- หลายประเทศทั่วโลกมีข้อตกลงร่วมกันว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อร่วมกันรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส
- ค่ายรถยนต์ที่เคยผลิตรถยนต์สันดาปรายใหญ่ เริ่มประกาศวิสัยทัศน์ที่จะขับเคลื่อนองค์กรด้วยแนวคิด ESG พร้อมตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะให้เป็นระบบไฟฟ้า เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ ขับเคลื่อนโลกสู่สังคมไร้มลพิษ ไร้อุบัติเหตุ และส่งเสริมการสร้าง Smart ecosystem รวมไปถึงค่ายรถยนต์อีกหลาย ๆ ค่ายที่ตั้งวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โดยรถยนต์ไฟฟ้า (รถยนต์ EV) เข้ามาตอบโจทย์กระแสดังกล่าวครบถ้วนทั้งกระบวนการผลิตและการใช้งาน โดยจะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์เทียบกับรถยนต์สันดาปได้กว่า 40% ทำให้การเติบโตเฉลี่ยต่อปีของรถยนต์ EV อยู่ในระดับมากกว่า 30% ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะเติบโตในระดับสูงเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น และการขยายกำลังการผลิตจนได้กำไร
อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเปลี่ยนแปลง ผู้ประกอบการจึงต้องเร่งปรับตัว
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า เรากำลังเปลี่ยนไปสู่ยุคที่ ESG เข้ามามีบทบาท และยังเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้น รถยนต์ EV เติบโตอย่างรวดเร็ว จนอาจเป็นไปได้ที่เข้ามาแทนรถยนต์สันดาปในที่สุด ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรจะเร่งหาโอกาสใหม่ โดย finbiz by ttb ได้วิเคราะห์ถึงกลุ่มธุรกิจที่จะอาจหาโอกาสใหม่ ๆ ได้ ดังนี้
นอกจากนี้ยังอาจมีโอกาสอื่น ๆ จากแนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน โดยยึดหลัก ESG ที่ผู้ประกอบการจะสามารถพลิกช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มาเป็นโอกาสได้ เพราะอย่างไรก็ตามทุกองค์กรล้วนต้องขยับไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งสิ้น