กระทรวงการคลัง โดย EXIM BANK จับมือสภาหอฯ ส.อ.ท. สรท. และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดอบรมหลักสูตรครบวงจร TOP X Executive Program รุ่นที่ 2 สร้างผู้นำธุรกิจระหว่างประเทศที่มีศักยภาพรุกตลาดใหม่ (New Frontiers) โดยอบรมเจาะลึกแนวทางกำหนดและดำเนินกลยุทธ์บริหารธุรกิจในโลกการค้ายุคใหม่ แนวทางดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมศึกษาข้อมูลเชิงลึกของตลาด New Frontiers อาทิ ตะวันออกกลางและ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) รวมทั้ง Workshop เครือข่ายทางธุรกิจ (Business Matching) เพื่อให้ส่งออกได้จริง โดยผู้ผ่านการอบรมสามารถขอสินเชื่อ EXIM BANK สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 4.25% ต่อปีในปีแรก พร้อมขอรับกรมธรรม์ประกันการส่งออก เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ EXIM for Small Biz มูลค่า 1,800 บาท ฟรี! ค่าเบี้ยประกันสำหรับผู้ซื้อ 1 ราย
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงาน TOP X Executive Program รุ่นที่ 2 หลักสูตรระยะสั้นเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้นำการค้าโลก โดยมี ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ดร.ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) นายไกรสินธุ์ วงศ์สุรไกร กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (สภาหอฯ) คุณชาติชาย พานิชชีวะ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และ รศ.ดร.สมชาย สุภัทรกุล คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าร่วมพิธีเปิดดังกล่าว ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สุขุมวิท 20 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ความร่วมมือในเชิงบูรณาการความเชี่ยวชาญของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนชั้นนำของประเทศในครั้งนี้จะเป็นพลังสำคัญในการสร้างผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพด้วยองค์ความรู้ที่ถูกต้องและปฏิบัติได้จริง โอกาสที่เปิดกว้างสู่เครือข่ายทางธุรกิจที่เข้มแข็งทั้งที่เป็นพันธมิตรและคู่ค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเครื่องมือทางการเงินครบวงจร กระทรวงการคลังพร้อมสนับสนุนการเชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจ การเงินการคลัง กับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีภาคธุรกิจที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีเศรษฐกิจที่เข้มแข็งตั้งแต่ฐานราก พร้อมปรับตัวไปสู่โลกอนาคต มีอาวุธครบมือและภูมิต้านทานเพียงพอที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า จากผู้สำเร็จหลักสูตร TOP X Executive Program รุ่นที่ 1 จำนวน 50 คน ภายใต้การบูรณาการความร่วมมือของ EXIM BANK ร่วมกับสภาธุรกิจชั้นนำและสถาบันอุดมศึกษา ทำให้เกิดการจับคู่ธุรกิจกว่า 50 คู่ คิดเป็นมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างประเทศที่ขยายผลต่อจำนวนกว่า 1,000 ล้านบาท ทำให้ในปี 2566 EXIM BANK ร่วมกับสภาหอฯ ส.อ.ท. สรท. และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดหลักสูตร TOP X Executive Program รุ่นที่ 2 "Exporter Network: Unlock The Global Growth" เนื้อหาการอบรมเข้มข้นพร้อม Workshop และการศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นการบุกตลาด New Frontiers อาทิ ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า GDP จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 4% ในช่วงปี 2567-2571 เป็นประตูการค้าสู่ตลาดตะวันออกกลางที่มีผู้บริโภคจำนวนถึง 480 ล้านคน มีกำลังซื้อและศักยภาพทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะโอกาสในการส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลของไทย การอบรมมุ่งเน้นการจัดทำกลยุทธ์เพื่อบุกตลาดจริง โดยมี EXIM BANK และหน่วยงานพันธมิตรเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ (Business Partners) เติมความรู้ เติมโอกาส เติมเงินทุนให้ SMEs ไทยเติบโตเป็นนักรบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในตลาดโลก โดยเฉพาะในตลาดใหม่ โดยคาดว่าจะเกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจในตลาดใหม่ สร้างมูลค่าการค้าการลงทุนที่มีมูลค่าสูงกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยที่เป็นสมาชิกสภาหอฯ ส.อ.ท. และ สรท. สามารถสมัครขอรับบริการด้านสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องจาก EXIM BANK ได้ สำหรับธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อัตราดอกเบี้ยพิเศษต่ำสุด 4.25% ต่อปีในปีแรก พร้อมรับกรมธรรม์ประกันการส่งออก EXIM for Small Biz มูลค่า 1,800 บาท ฟรี! ค่าเบี้ยประกันสำหรับผู้ซื้อ 1 ราย ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 ธันวาคม 2566