"ตับ" แข็งแรงได้ภายใน 3 เดือนแค่หยุดดื่มแอลกอฮอล์

ข่าวทั่วไป Wednesday August 2, 2023 17:25 —ThaiPR.net

แอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มที่ส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่างโดยเฉพาะอวัยวะภายในอย่างเช่น "ตับ" ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ทุกชนิด เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคตับ ไม่ว่าจะเป็นโรคตับแข็ง ตับวาย หรือมะเร็งตับ

เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายก็จะไปทำร้ายเซลล์ของตับ โดยกระตุ้นให้มีไขมันสะสมในตับ จากนั้นตับจะเกิดการอักเสบ ในคนที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำจะเกิดการสะสมของพังผืดในตับ เหมือนแผลเป็นและมีลักษณะแข็ง ซึ่งในระยะยาวจะทำให้ตับแข็ง ส่งผลให้การทำงานของตับลดลง ตับวาย และนำไปสู่มะเร็งตับได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาโรคตับอยู่แล้ว เช่น ผู้ที่มีพาหะไวรัสตับอักเสบบีหรือซี ที่มีความเสี่ยงต่อการแข็งของตับจากไวรัสอยู่แล้ว หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก 

ปกติแล้วตับเป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหากมีการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ จะทำให้เกิดผลเสียต่อตับในระยะยาว เกิดการสะสมของพังผืดและทำให้ตับแข็ง แต่ถ้าหากมีการเว้นระยะหรืองดการดื่มแอลกอฮอล์ ตับก็จะฟื้นฟูตัวเองได้ในระดับหนึ่ง

ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มฟื้นฟูตับตอนนี้ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มตอนไหนในช่วง 3 เดือน เข้าพรรษานี้ให้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการ ลด ละ เลิกดื่มแอลกอฮอล์กันเถอะครับ และหากคุณทำได้

  •  ใน1 เดือนแรก ตับของคุณจะได้พักอย่างเต็มที่ ไม่ถูกทำร้ายซ้ำๆ จากการดื่มแอลกอฮอล์
  •  เดือนที่ 2 เมื่อตับได้พักได้ทำงานอย่างปกติเต็มที่ ตับก็จะเริ่มฟื้นฟูตัวเอง โดยการเริ่มสร้างเซลล์ใหม่ๆ และขับไขมันที่สะสมในตับออกไปได้ด้วยตัวเอง
  •  เดือนที่ 3 ตับจะดีขึ้น แข็งแรงขึ้น เพราะเซลล์ใหม่ที่ตับสร้างขึ้นมาช่วยให้ตับทำงานได้อย่างดี มีประสิทธิภาพมากขึ้น

และเมื่อตับมีสุขภาพดีขึ้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็จะส่งผลดีต่อร่างกายความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายต่างๆ ก็จะลดน้อยลง และเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรง หน้าตาก็จะสดชื่นแจ่มใสตามมาด้วย

ตับฟื้นฟูได้ พักตับ ครบพรรษา 3 เดือนพิสูจน์กัน ตรวจตับ แบบไม่เจ็บด้วย Liver Scan คลิกอ่าน >>  https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/2151

สายด่วนสุขภาพโทร. 0 2743 9999 ต่อ 2999Line Official : @ramhospital


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ