นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารและนายพิรุณ ชินวัตร ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์และพลังงานทดแทนในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เปิดเผยว่า PRIME ออกหุ้นกู้มูลค่า 200 ล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิม 500 ล้านบาทที่จะครบกำหนดในเดือนก.ย. 2566 และใช้สำหรับลงทุนในโครงการพลังงานทดแทน เป็นหุ้นกู้ระยะยาวชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน ครั้งที่ 1/2566 มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 1,000 บาท ระดับความเสี่ยงของหุ้นกู้เท่ากับ 5 และชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ จำนวนจองซื้อขั้นต่ำที่ 100,000 บาท จำหน่ายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ เปิดให้จองซื้อในช่วง 3 - 4 และ 7 ส.ค. 2566
โดยแบ่งเป็น 2 ชุด หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี 7 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.95% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 2 ปี 4 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.15% ต่อปี PRIME ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ "BBB-" แนวโน้มอันดับเครดิต "Negative" โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ติดต่อสอบถามข้อมูล หรือ จองซื้อหุ้นกู้ได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)("CNS") โทร: 02-638-5000, 02-081-2000 / บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด ("BLU")โทร: 02-249-2999 Line Official : @BlueBellFin / บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร : 02-351-1800 / บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร: 02-658-8888 และ 02-658-8945 / บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ("CGS-CIMB") โทร: 02-846-8675
ส่วนความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน Miaoli Lake West กำลังการผลิต 200 เมกกะวัตต์เป็นหนึ่งโครงการใหญ่ของ PRIME ในประเทศไต้หวันที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโครงการ เฟสที่ 1 จะสามารถเริ่มการก่อสร้างโครงการได้ ภายในเดือนมิถุนายนปี 2567 และจะก่อสร้างเสร็จภายในไตรมาส 4 ของปี 2568
การขยายธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนบ่อเลี้ยงปลา Budai Outdoor Fishfarm ในจังหวัดเจียอี้ ประเทศไต้หวัน ขนาด 99 เมกกะวัตต์ เป็นไปตามกำหนดการ และโครงการ Xitong 3 และ 4 และ Xitong 8 และ 9 อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2566 ทั้งนี้ PRIME มีเป้าหมายในการเพิ่มกำลังการผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ (COD) ให้ได้ในระดับ 1,800 เมกะวัตต์ ภายในปี 2570 หรือ ภายใน 5 ปีข้างหน้า