- SIRI - แสนสิริเผย 7 เดือน Secured Revenue แล้วกว่า 70% หรือคิดเป็น 29,700 ล้านบาท จากเป้ารายได้จากการขาย 41,000 ล้านบาท
- พร้อมจ่อคิวบุคโอนอีก 3 โครงการแนวสูง - แนวราบ มูลค่ารวม 3,100 ล้านบาท ได้แก่ เฮย์ หัวหิน คอนโดสร้างเสร็จพร้อมโอนและ เนีย บาย แสนสิริ คอนโดใหม่จากซีรี่ย์ One of a Kind Project รวมถึง บูก้าน พัฒนาการ บ้านเดี่ยวรูปแบบ Luxury Private Villa ที่จ่อคิวเปิดตัวปลายกันยายนนี้ ดันรายได้ครึ่งปีหลังต่อเนื่อง มั่นใจรายได้จากการขายตามเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นและสะท้อนความแข็งแกร่งในทุกสภาวะเศรษฐกิจ
- ขณะที่ยอดขายรอบ 7 เดือน ล่าสุดทะลัก 27,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 50% จากเป้าหมายยอดขาย 55,000 ล้านบาท จากการ Sold Out 10 โครงการ มูลค่ารวม 20,200 ล้านบาท ล่าสุดปิดการขายคอนโดมิเนียม เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค ทำเลห้าแยกลาดพร้าว ตอกย้ำความมั่นใจในตลาดคอนโดมิเนียม
- เผยครึ่งปีหลังเตรียมเปิด 39 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 56,700 ล้านบาท ตามสัญญาณเศรษฐกิจ ไฮไลท์บ้านเดี่ยวแบรนด์ "เศรษฐสิริ" 10 โครงการใหม่ และ New Luxury Condominium ในสุดยอดทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ ได้แก่ "ราชเทวี"และ "อารีย์" ดันการเติบโตของยอดขายและตุนยอดรับรู้รายได้ในอนาคต
- ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากกลุ่มลูกค้าแสนสิริ ด้วยยอดขายและการทยอยรับรู้รายได้ที่ดี ขณะที่ ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่น สะท้อนความแข็งแกร่งจากการได้รับคัดเลือกให้เป็นหุ้นที่ถูกรวมอยู่ในดัชนี SETHD (SET High Dividend) จากการเป็นหุ้นที่มี Market cap สูง, Liquidity สม่ำเสมอ และจ่ายปันผลสูงต่อเนื่อง
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า ความแข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาฯ ของแสนสิริ ส่งผลให้แสนสิริมีผลงานที่แข็งแกร่ง ด้วยยอดขายในช่วง 7 เดือน ที่มียอดขายรวมถึง 27,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 50% จากเป้าหมายยอดขาย 55,000 ล้านบาท จากการ Sold Out ปิดการขายไปถึง 10 โครงการ มูลค่ารวม 20,200 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการแนวราบ 7 โครงการ ได้แก่ โครงการเศรษฐสิริ ทวีวัฒนา, เศรษฐสิริ พหล-วัชรพล, เศรษฐสิริ พระราม 5, อณาสิริ กรุงเทพ - ปทุมธานี, อณาสิริ รังสิต - คลอง 2, คณาสิริ ศาลายา - ปิ่นเกล้า, สิริเพลส ราชพฤกษ์ - พระราม 5 และ โครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ได้แก่ ดีคอนโด ไฮด์อเวย์ รังสิต, ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต รวมถึงล่าสุดยังปิดการขายคอนโดมิเนียม เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค ทำเลห้าแยกลาดพร้าว ตอกย้ำความมั่นใจในตลาดคอนโดมิเนียม
นอกจากนี้ แสนสิริยังมีผลงานการโอนที่โดดเด่นในรอบ 7 เดือน โดยมียอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สร้างเสร็จสมบูรณ์และส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้วถึง 19,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% จากเป้าหมายยอดโอน 41,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีหลัง แสนสิริยังเตรียมโอนอีก 3 โครงการแนวสูง - แนวราบ มูลค่ารวม 3,100 ล้านบาท ได้แก่ เฮย์ หัวหิน (HAY HUA HIN) Affordable คอนโดมิเนียมแต่งพร้อมอยู่โครงการล่าสุดของแสนสิริที่หัวหิน เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนท์ ตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดของแสนสิริในทำเลหัวหิน และ เนีย บาย แสนสิริ (NIA by Sansiri) คอนโดใหม่จากซีรี่ย์ One of a Kind Project ที่จะเป็นโครงการคอนโดสูงในสุขุมวิท ตั้งอยู่บนทำเลใกล้ทุกที่ ใกล้เพียง 200 เมตร ถึงทางด่วนฉลองรัช ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส พระโขนง ใกล้ฮาบิโตะ มอลล์ (Habito Mall) ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้มอลล์ใจกลาง T77 และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่อื่น ๆ อีกมาก ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท* ที่พร้อมโอนในเดือนกันยายนนี้ รวมทั้งโครงการแนวราบที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของแสนสิริในปีนี้ ตอกย้ำเบอร์หนึ่งผู้นำอสังหาฯ ลักซ์ชัวรี่และซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ไทย เตรียมเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวพร้อมโอน "บูก้าน พัฒนาการ" บ้านเดี่ยวรูปแบบ Luxury Private Villa รายล้อมด้วยสังคมคุณภาพ เพียง 17 ยูนิตเท่านั้น ราคา 65 - 115 ล้านบาท * จ่อคิวเปิดตัวปลายกันยายน ที่จะรองรับการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยล่าสุด แสนสิริมี Secured Revenue หรือรายได้ในมือที่รองรับแล้วถึง 29,700 ล้านบาท หรือคิดเป็นกว่า 70% จากเป้าหมายรายได้จากการขายที่วางไว้ในปีนี้ 41,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้ารายได้ที่วางไว้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ในครึ่งปีหลัง แสนสิริยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 39 โครงการ มูลค่ารวม 56,700 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 23 โครงการ มูลค่ารวม 35,900 ล้านบาท ไฮไลท์ด้วยการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ เศรษฐสิริ 10 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 21,900 ล้านบาท ครอบคลุมทุกทำเล และแผนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมอีก 16 โครงการ มูลค่ารวม 20,800 ล้านบาท ไฮไลท์ด้วยการเปิดตัว New Luxury Condominium ในสุดยอดทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ ได้แก่ "ราชเทวี"และ "อารีย์" เพื่อผลักดันการเติบโตของยอดขายและตุนยอดรับรู้รายได้ในอนาคต
"ผลงานยอดขายที่ดีตั้งแต่ต้นปี มาจากความเชื่อมั่นของลูกค้าในการเป็น "แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน" จากการมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านคุณภาพ ดีไซน์ รวมถึงการบริการ หรือ Sansiri Service ในการมอบบริการที่ดีที่สุดทั้งก่อนและหลังการขาย รวมไปถึง LIV-24 ที่ดูแลความปลอดภัยส่งตรงจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมงมาตรฐานแสนสิริ พร้อมเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลทุกจุดในโครงการ พร้อมพริวิเล็จมากมายจากแสนสิริ แฟมิลี่ ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากกลุ่มลูกค้าแสนสิริ ด้วยยอดขายและการทยอยรับรู้รายได้ที่ดี ขณะที่ผู้ถือหุ้นให้ความเชื่อมั่นสูง สะท้อนจากหุ้น SIRI ที่มีความแข็งแกร่ง ได้รับคัดเลือกให้เป็นหุ้นที่ถูกรวมอยู่ในดัชนี SETHD (SET High Dividend) จากการเป็นหุ้นที่มี Market cap สูง, Liquidity สม่ำเสมอ และจ่ายปันผลสูงต่อเนื่องอีกด้วย" นายอุทัย กล่าว