Dr.TATTOF มั่นใจตลาดความงามยังโต หลังรัฐบาลผลักดันเป็นหนึ่งในวาระแห่งชาติด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ พร้อมเผยแผนตอกย้ำผู้นำนวัตกรรมเลเซอร์ทางการรักษาลบรอยสัก ลบรอยแผลเป็น
จากข้อมูลคาดการณ์ของ Allied Market Research ระบุว่า มูลค่าตลาดท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยในปี 2023 จะมีมูลค่าประมาณ 3.1 แสนล้านบาท และอาจแตะระดับ 7.6 แสนล้านบาท ในปี 2027 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 13.2% โดยจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เข้ามาใช้บริการด้านการแพทย์ในประเทศไทยประมาณ 7.7 ล้านคน เมื่อพิจารณาจากจำนวนนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คาดว่าในปี 2027 จะมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่ใช้บริการและศัลยกรรมความงามอยู่ที่ 23% (Cosmetic treatment)
นพ.นัทธพงศ์ จิรุระวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์ Dr.TATTOF Clinic กล่าวว่า "ประเทศไทยมีจำนวนสถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐานระดับสากลมากที่สุดในอาเซียน ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ โดยการจัดอันดับล่าสุดในปี 2021 ของ Medical Tourism Association ได้จัดอันดับให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยติดอันดับ 5 ของโลก ซึ่งปัจจัยสำคัญทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ทั่วโลก คือ แพทย์ไทยเก่งในหลากหลายสาขาและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะการศัลยกรรมความงาม และการดูแลผิว รวมถึงการรักษาพยาบาลเฉพาะทาง เช่น ภาวะมีบุตรยาก เวชศาสตร์ชะลอวัย การผ่าตัดแปลงเพศ เป็นต้น"
สำหรับเทรนด์ความงามที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน แบ่งออกเป็นการศัลยกรรมความงามแบบผ่าตัด และไม่ผ่าตัด ได้แก่ การฉีดสารเติมเต็มเพื่อแก้ไขและปรับรูปหน้า การใช้เลเซอร์เพื่อการรักษาและความงาม เช่น การลบรอยแผล การลบรอยดำคล้ำ การลบรอยสัก สักคิ้ว สักปาก สักขอบตา รวมถึง การใช้เลเซอร์เพื่อยกกระชับปรับรูปหน้า ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจการเสริมความงามแบบไม่ผ่าตัดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 5 อันดับแรก จากสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (ISAPS) ได้แก่ การฉีดโบท็อกซ์ กรดไฮยาลูโรนิก การกำจัดขน การลดไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัด และการใช้เลเซอร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสภาพผิว
นอกจากนี้ ช่วงอายุของคนที่เข้ามาใช้บริการมีการลดอายุลงมาอย่างต่อเนื่อง เดิมเป็นกลุ่ม Gen Y ที่มีพฤติกรรมเริ่มให้ความใส่ใจในปัญหาผิวและริ้วรอยอย่างจริงจัง แต่ปัจจุบันกลุ่ม Gen Z เป็นกลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี กลับให้ความสนใจและเริ่มเข้ามาใช้บริการคลินิกความงามแทน
คุณพงศยา ตราชูนิตย์ ผู้บริหาร Dr.TATTOF Clinic ได้กล่าวถึงแนวโน้มตลาดความงาม ปี 2023 - 2024 ว่า "ธุรกิจการให้บริการด้านสุขภาพและความงาม ยังคงเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตต่อไป อีกทั้งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ประกาศแผนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ โดยมีอุตสาหกรรมการแพทย์เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะ 5 - 10 ปีข้างหน้า รวมทั้งการจัดอุตสาหกรรมทางการแพทย์เข้ามาเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-curve) โดยตั้งเป้าหมายการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็น World Medical Hub ยิ่งตอกย้ำความมั่นใจได้ว่า ตลาดธุรกิจสุขภาพและความงามมีแนวโน้มเติบโตอย่างแน่นอน"
สำหรับภาพรวมการดำเนินงานของ Dr.TATTOF Clinic ในช่วงปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในด้านการลบรอยสักด้วยโปรแกรม PicoWay Laser กับรางวัล "Best Achieve Tattoo Removal Treatment Award" การันตรีอันดับ 1 ในเอเชีย ด้านการลบรอยสัก แต่อย่างไรก็ตาม ทาง Dr.TATTOF ยังคงมุ่งมั่นตั้งใจยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยของสถานพยาบาลให้แก่ผู้รับบริการที่เข้ารับการรักษาด้วยมาตรฐาน American Accreditation Commission International (AACI) เป็นการรับรองมาตรฐานของสถานพยาบาลสากลชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เป็นที่ยอมรับทั้งในยุโรป อเมริกา เอเชีย และตะวันออกกลาง ซึ่ง Dr.TATTOF สาขาเซ็นทรัลพลาซ่าเวสต์เกต สามารถผ่านเกณฑ์การรับรองคุณภาพตามมาตรฐานสากล AACI เป็นสาขาแรก
การผ่านการรับรองมาตรฐานสากล AACI ในครั้งนี้เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจให้กับผู้รับบริการได้ว่า Dr.TATTOF มุ่งเน้นให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของผู้รับบริการให้เข้ากับมาตรฐานสากลสูงสุด เพื่อผลลัพธ์ของการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เห็นผลและปลอดภัย ทั้งนี้เพื่อรองรับผู้รับบริการ และนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้บริการในอนาคตต่อไป
ประสบการณ์กว่า 8 ปี กับ 10 สาขา ของ Dr.TATTOF Clinic มุ่งเน้นนวัตกรรมเลเซอร์ทางการรักษาด้วยกัน 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1) กลุ่มรอยสัก ซึ่งเป็นคลินิกแรกในประเทศไทยที่มีการนำเข้านวัตกรรมเลเซอร์ทางการรักษาเข้ามา และมีหัวเลเซอร์ครบในทุกมิติการให้บริการ ลบรอยสักได้ทุกแบบ ทุกขนาด ทุกสี ไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น 2) กลุ่มกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวสำหรับผู้ที่มีปัญหารอยแผลเป็น รอยแตกลาย 3) กลุ่มเม็ดสี เช่น ปานดำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยด่างขาว 4) กลุ่มสลายไขมันด้วยเลเซอร์ 5) กลุ่มความผิดปกติของเส้นเลือด ปานแดง รอยแดงสิว สิวอักเสบ และกลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มกำจัดขน
ธุรกิจคลินิกความงาม มีการพัฒนาอยู่เสมอ โดยเฉพาะนวัตกรรมเลเซอร์ทางการรักษา เมื่อปีที่ผ่านมา มีการนำเลเซอร์รักษารอยด่างขาวเข้ามาใช้ ในการรักษาผู้ที่มีปัญหาผิวหนังเกิดการสูญเสียเซลล์สร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเป็นรอยด่างขาวที่มีขอบเขตชัดเจน แม้จะไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาก็ส่งผลในเรื่องความไม่มั่นใจ ซึ่ง Dr.TATTOF กำลังมองหาเลเซอร์ในกลุ่มใหม่ ๆ ที่มีจุดเด่นในเรื่องของประสิทธิภาพ ความปลอดภัย มาตอบสนองลูกค้าเพิ่มเติมในปีหน้าเช่นเดียวกัน
ส่วนทางด้านการแข่งขันด้านราคา โปรโมชั่น รวมทั้งการชูจุดเด่นทางด้านนวัตกรรมเครื่องเลเซอร์เป็นตัวกระตุ้นเพื่อให้เกิดการตัดสินใจนั้น Dr.TATTOF มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) แตกต่างจากคลินิกความงามอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ที่มีความต้องการลบรอยสัก 60% ส่วนอีก 40% เป็นกลุ่มผู้ที่มีปัญหารอยแผลเป็น รอยดำคล้ำ รอยแตกลาย และกำจัดขน ทำให้ Dr.TATTOF เป็นคลินิกที่ถูกพูดถึงและแนะนำต่อในกลุ่มลูกค้าและครอบครัวในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับผู้สนใจอยากใช้บริการหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ Line @dr.tattof หรือโทร 099-6142424 ช่องทางการติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นคลิกที่ https://www.facebook.com/dr.tattof หรือ เว็บไซต์ www.drtattof.com