กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--กทม.
กรุงเทพมหานครกำหนดรับลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ระหว่างวันที่ 12 — 14 พ.ค. นี้ เวลา 09.00 — 16.00 น. ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกทม. (ไทย — ญี่ปุ่น) เขตดินแดง โรงเรียนมีนบุรี เขตมีนบุรี และศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ (บางมด) เขตทุ่งครุ โดยสามารถติดต่อด้วยตนเอง มอบหมายผู้แทนหรือส่งทางไปรษณีย์ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง แนวโน้มจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คาดปี 2553 ยอดผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานครพุ่งสูงกว่า 900,000 คน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าว “การจดทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุกรุงเทพมหานคร” โดยมี นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าว
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครรับถ่ายโอนภารกิจด้านเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งแต่ปี 2546 โดยขณะนั้นกระทรวงฯให้ความช่วยเหลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร เพียงจำนวน 638 ราย หลังรับถ่ายโอนภารกิจกรุงเทพมหานครจึงเร่งขยายการให้ความช่วยเหลือให้ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความเดือนร้อนตามความเป็นจริง ในปี 2551 กรุงเทพมหานครจึงให้ความช่วยเหลือด้านเบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุ จำนวนทั้งสิ้น 19,726 ราย ในอัตรา 500 บาท/คน/เดือนตลอดชีพ ซึ่งจำนวนผู้สูงอายุในกรุงเทพฯ ขณะนี้มีประมาณ 900,000 คน และคาดว่ามีจำนวนผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ได้รับเบี้ยยังชีพประมาณ 30,000 คน อย่างไรก็ตามปัจจุบันสังคมไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มกำลังเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงอายุ โดยจากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คาดว่าในปี 2553 กรุงเทพมหานครจะมีผู้สูงอายุจำนวนทั้งสิ้น 906,000 คน และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเพิ่มมากกว่าประชากรวัยอื่น ประกอบกับสภาพสังคม เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป ทำให้กลุ่มผู้สูงอายุซึ่งไม่มีรายได้เพียงพอแก่การครองชีพ ประสบปัญหา ไม่สามารถพึ่งตนเองได้ เบี้ยยังชีพจึงเป็นสวัสดิการรูปแบบหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีรายได้เพิ่มขึ้นและส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
กรุงเทพมหานครจึงกำหนดให้มีการรับจดทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขึ้น เพื่อเป็นการสำรวจข้อมูลและพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านเบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับความเป็นจริง ให้ได้รับความช่วยเหลือด้านเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม โดยเปิดรับจดทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 12 — 14 พฤษภาคม 2551 ระหว่างเวลา 09.00 — 16.00 น. ซึ่งผู้สูงอายุสามารถเดินทางไปจดทะเบียนด้วยตนเองหรือมอบหมายผู้แทนไปดำเนินการได้ใน 3 สถานที่ คือ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย — ญี่ปุ่น) เขตดินแดง โรงเรียนมีนบุรี เขตมีนบุรี และศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ (บางมด) เขตทุ่งครุ ในกรณีที่ไม่สะดวกเดินทางไปจดทะเบียนด้วยตนเอง สามารถแจ้งความจำนงผ่านทางไปรษณีย์ โดยแจ้งชื่อและที่อยู่ให้ชัดเจนพร้อมส่งหลักฐานไปที่ สำนักงานการสงเคราะห์และสวัสดิภาพสังคม (เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ) สำนักพัฒนาสังคม เลขที่ 4095/25 — 26 ถนนมิตรไมตรี 3 เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 หรือขอจดทะเบียนเพิ่มเติมภายหลังที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม ของสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตในกรุงเทพมหานคร
สำหรับหลักฐานที่ต้องใช้ในการจดทะเบียน ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สูงอายุ โดยผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพ ได้แก่ ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีภูมิลำเนาและทะเบียนบ้านอยู่ในกรุงเทพมหานคร เป็นผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน ยากจน หรือมีรายได้ต่ำกว่า 2,020 บาท/คน/เดือน ไร้ที่พึ่ง ถูกทอดทิ้ง หรือไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และเป็นผู้ที่ไม่ได้รับเบี้ยยังชีพหรือไม่เคยขึ้นทะเบียนเบี้ยยังชีพกับสำนักงานเขตมาก่อน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร. โทร 0 2245 5166