SABINA เผยผลประกอบการครึ่งแรกปี 66 กวาดรายได้ 1.7 พันล้านบาท เติบโต 10.2% บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.66 บาท ครึ่งปีหลังพร้อมลุยตลาดต่างประเทศ หลังฟิลิปปินส์เติบโตดีกว่าที่คาด
SABINA เผยผลประกอบการครึ่งแรกปี 2566 (มกราคมถึงมิถุนายน) รายได้อยู่ที่ 1,730.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 230.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากครึ่งแรกของปี 2565 คิดเป็น 9.1% เผยปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากแรงส่งตั้งแต่ต้นปี หลังบริษัทฯ เดินหน้ารีแบรนด์ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 'Braless สบายเหมือนไม่ได้ใส่บรา' ที่สร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ด้านบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกในอัตราหุ้นละ 0.66 บาท ย้ำครึ่งหลังปีนี้ พร้อมกระตุ้นตลาดต่างประเทศ หลังจากการลงทุนในฟิลิปปินส์ประสบความสำเร็จเกินกว่าที่คาด เตรียมเดินหน้ารุกจัดอีเว้นท์ มั่นใจปีนี้ทุบสถิติรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ตามเป้า
นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในภายใต้แบรนด์ "ซาบีน่า" เปิดเผยว่า SABINA ยังคงเดินหน้ารักษาอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิได้อย่างน่าพอใจ หลังจากช่วงครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,730.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 230.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2565 โดยอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 13.3% ทั้งนี้ การเติบโตมาจากช่องทางขาย 2 ช่องทางหลัก ได้แก่ ช่องทางค้าปลีก (Retail) ที่เติบโต 7.7% และช่องทางออนไลน์ (Non-Store Retailing : NSR) ที่เติบโต 20.9% จากช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ขณะที่ช่องทางรับจ้างผลิต (OEM) ลดลง 5.2% สอดคล้องกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในยุโรปและสหราชอาณาจักร
"ปัจจัยสนับสนุนสำคัญในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีแรงส่งมาจากช่วงต้นปีที่เราตัดสินใจ "รีแบรนด์" พร้อมกับเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Braless ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ทำให้รู้สึกสบายเหมือนไม่ได้ใส่บรา ซึ่งกลายเป็นกระแสจนทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ จนทำให้ Braless กลายเป็นฮีโร่โปรดักส์ของเรา ประกอบกับการบริโภคในประเทศกลับมาฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ในไตรมาสที่ 2 ยังมีแรงขับเคลื่อนจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้ดีขึ้น ผลักดันให้รอบในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน SABINA ยังเพิ่มความหลากหลายให้กับสินค้า ที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะชุดชั้นใน แต่ยังเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ทั้งชุดลำลอง ชุดว่ายน้ำ ชุดนอน รวมถึงสินค้าอื่นๆ ด้วยรูปแบบ ดีไซน์ และการผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีคาแรคเตอร์เฉพาะ ซึ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้มากขึ้น" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าว
จากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือน (มกราคมถึงมิถุนายน) ปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.66 บาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 29 สิงหาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 กันยายน 2566
สำหรับแนวโน้มช่วงครึ่งหลังของปีนี้ SABINA มั่นใจว่า ยังคงมีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่บริษัทฯ เข้าลงทุนในบริษัท Moda SBN ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีก และเป็นตัวแทนจำหน่าย (Distributor) สินค้าแบรนด์ "ซาบีน่า" ในประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยการเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 77% ซึ่งขณะนี้มีอัตราการเติบโตของยอดขายดีกว่าที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ โดยในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา SABINA ได้รับรู้รายได้ตามสัดส่วนจาก Moda เต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก และหลังจากนี้ไป SABINA เตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นกำลังซื้อในฟิลิปปินส์ พร้อมกับมองหาโอกาสในการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้นตามแผน 5 ปีที่ SABINA ตั้งเป้าจะเป็นแบรนด์ระดับภูมิภาค โดยเริ่มจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
"ถ้าจะนับการเปลี่ยนแปลงจากช่วงโควิด-19 ที่ทุกอย่างหยุดชะงักไป จนถึงตอนนี้เราสามารถบอกได้ว่า เรากลับมาสู่ภาวะปกติแล้ว แต่เป็นความปกติที่หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะพฤติกรรมของผู้บริโภค ทั้งความชื่นชอบสินค้า รวมถึงรูปแบบการจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งหมดนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงภายใต้บริบทที่เปลี่ยนไป และนั่นทำให้เรามั่นใจว่า ในปีนี้ SABINA จะสามารถสร้างยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน" นางสาวดวงดาวกล่าว