SABUY เปิดงบครึ่งปีแรก รายได้แข็งแกร่ง 5,106 ล้านบาท เติบโต 204% มีกำไร 346.6 ล้านบาท เผยแผนครึ่งปีหลัง ชูกลยุทธ์ Overseas Aspiration ลุยขยายธุรกิจ เพิ่มพันธมิตร เสริม Power of Ecosystem ของกลุ่มสบายต่อเนื่อง
นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการครึ่งปีแรก 2566 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2566) " SABUY มีรายได้รวม อยู่ที่ 5,106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย SABUY มีกำไรขั้นต้น 1,173.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 166.6% เนื่องจากบริษัทฯมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากธุรกิจปกติ และยังมองการลงทุนอย่างต่อเนื่อง มีกำไรจากการดำเนินงาน(หลังค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มในการสร้างธุรกิจ) 433.3 ล้านบาท และ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 346.6 ล้านบาท ลดลงจากกำไรสุทธิ 463.5 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการวัดมูลค่าเงินลงทุนในตราสารทุนที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับในไตรมาส 2 ปีนี้ SABUY มีรายได้รวม 2,572.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 179.6 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสนี้ มีผลกำไรจากการวัดมูลค่าเงินลงทุนในตราสารทุนลดลงจาก 420.3 ล้านบาท เป็น 106.2 ล้านบาท
ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 23.7% สาเหตุหลักเป็นผลมาจากต้นทุนในการขายสินค้าจากตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและค่าใช้จ่ายในการให้บริการที่เพิ่มขึ้นประกอบกับการปรับเปลี่ยนสินค้าและกลุ่มลูกค้า รวมถึงการที่กลุ่มบริษัทควบคุมราคาจำหน่ายสินค้าและบริการเพื่อให้สามารถยังคงแข่งขันกับตลาดและรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ ซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ในไตรมาส 2/2566 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากบริษัทหลักกลุ่มเดิม เช่น, SBNEXT, SABUY Market Plus, SABUY SPEED, SABUY Alliances, PTECH, BZB, และ LOVLS ซึ่งเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตคงที่อย่างต่อเนื่องในไตรมาสนี้ รวมไปถึงการมองหาโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ๆ ที่เสริมสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทฯ เช่น การเพิ่ม Touchpoint และช่องทางการขายแบบ B2C ผ่านแพลตฟอร์ม ShopDD และ เป็นตัวแทน Banking Agent ให้กับธนาคารกรุงเทพ ในการฝาก-ถอน เงินสด ผ่านช่องทางของบริษัทฯ เป็นต้น อีกทั้ง บริษัทยังดำเนินกลยุทธ์เน้นความยั่งยืนด้านการพัฒนาบุคลากร ควบคุมความเสี่ยง และการตรวจสอบภายใน รวมไปถึงปรับปรุงระบบการขายและบริการตามแนวทาง 7 SMART เพื่อเพิ่มรายได้ใน ทุกสินค้าและบริการ นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มีการหาช่องทางการขายและการหาตลาดใหม่ๆ รวมถึงการปรับโครงสร้างหน่วยงานแบบองค์รวมเน้นการขายแบบ Solution เพื่อให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจ 7 SMART และการขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค (Regional Player) โดยบริษัทฯ ยังคงแนวทางการเติบโตอย่างยั่งยืนตามตั้งเป้าไว้
รายได้เติบโตของกลุ่มสบาย เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ ได้ทำการพัฒนาระบบ Food court และ POS ให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบ ในเครือ SABUY คือ SABUY Food Plus และ SABUY Market Plus โดยพัฒนาเป็น 'One-Stop Food Supply Service' ตลอดจนมีการเปิดศูนย์อาหาร Eatery ที่ True Digital Park โดยมีระบบสั่งอาหารผ่าน Kiosk ด้วย และเพิ่มช่องทางการขายใหม่โดยตรงสู่บริโภค (B2C) ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ "ShopDD ช็อปดีดี" เพื่อเพิ่มโอกาส ในการเข้าถึงลูกค้า เพิ่ม Touchpoint และสร้างยอดขายในช่องทางออนไลน์กว่า 100 แพลตฟอร์ม อีกทั้ง ยังสามารถต่อยอดการให้บริการทางด้านการขนส่งพัสดุ รวมไปถึงการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้กับบริษัทฯ อีกด้วย สีบเนื่องจากการแถลงผลประกอบการไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายให้ได้ไตรมาสละ 30-40 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นความท้าทายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทั้งนี้บริษัทฯ สามารถปรับลดได้แล้วประมาณ 12-15 ล้านบาทโดยมีผลตั้งแต่สิงหาคมเป็นต้นไป
นายวิรัช มรกตกาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานพาณิชย์และการลงทุน บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ว่า "ในช่วง 6 เดือน ปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจและเพิ่มพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมและเสริมความแข็งแกร่งแก่ Ecosystem รวมไปถึงต่อยอดและเสริมสร้างศักยภาพ (Synergy) ของกลุ่มบริษัทฯ โดยได้มีการจัดกลุ่มธุรกิจออกเป็น 6 กลุ่มธุรกิจหลักได้แก่ 1. Connext 2. Enterprise & Life 3. Payments & Wallet 4. Financial Inclusion 5. InnoTainment และ 6. Venture ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญดังนี้
บริษัทฯ ได้ยกระดับ Ecosystem โดยการเข้าลงทุนกับพันธมิตรต่างๆ ในปี 2565 ไม่ว่าจะเป็น SBNEXT, Asphere, SPEED (กลุ่มธุรกิจ Drop-Off), LOVLS, BZB และอื่นๆ ที่มีความหลากหลายและแตกต่างในตัวธุรกิจ รวมไปถึงการก่อตั้งบริษัทย่อยในเครือ เมื่อนำเข้ามาอยู่ใน Ecosystem ของบริษัทฯ ส่งผลให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ/ลูกค้าได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนต่อหน่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในปี 2566 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าออกสู่ภูมิภาคอาเซียน ภายใต้แนวคิด Overseas Aspiration โดยบริษัทฯ ได้เริ่มจากการเข้าร่วมมือกับ GHL และ CollectCo แม้ ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ จะยังไม่ได้เข้าลงทุนในกิจการดังกล่าว เนื่องจาก ราคาหุ้นมีความผันผวนทั้งภูมิภาค แต่อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังคงมีความสัมพันธ์และเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ GHL ในประเทศไทย และยังมีความตั้งใจที่จะเข้าลงทุนตามเป้าหมายเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด รวมไปถึงเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทฯ ต่อไปในภูมิภาคเอเชียจากการเข้าลงทุนใน AS ถือเป็นการขยายธุรกิจในภูมิภาคตามแนวคิด Overseas Aspiration เนื่องจาก AS เป็นบริษัทเกมส์ที่มีฐานลูกค้าอยู่ 5 ประเทศใน ASEAN ตลอดจนพัฒนาการของ AS ที่เข้าลงทุนใน BO ก็เป็นการเสริมศักยภาพการขยายตัวสู่ภูมิภาคเช่นกัน
SABUY มุ่งมั่นในการขยายธุรกิจต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยวางกลยุทธ์ขยายธุรกิจไปต่างประเทศ (Overseas Aspiration) มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าออกสู่ภูมิภาคอาเซียน เพื่อพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้เล่นระดับภูมิภาค (Regional Player) ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืน หรือ Sustainability Growth นั้น บริษัทฯ ได้มีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งด้านการพัฒนาบุคลากร การนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในระบบงาน การปรับปรุงกระบวนการทำงาน การบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแลบริษัทที่ดี การตรวจสอบภายใน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนสำคัญ และมีส่วนช่วยให้ SABUY สามารถเติบโต มั่นคง และยั่งยืน ต่อไปในอนาคต