'บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT' ตอกย้ำเป็นหุ้นปันผลที่สร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกอัตรา 0.26 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 222.31 ล้านบาท หลังทำรายได้รวมครึ่งปีแรก 3,071.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.55% สูงกว่าเป้าหมาย และมีกำไรสุทธิ 344.22 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยทั้งปีให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อเนื่อง มั่นใจปีนี้เติบโตตามเป้าหมาย
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา ไม้บันได SPC-FC ร้านกาแฟสำเร็จรูป (DIAMOND Cafe) และบริการติดตั้งโครงหลังคาและกระเบื้องหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้า 'ตราเพชร' เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีแรกของปี 2566 มีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวขึ้น แต่บริษัทฯ สามารถนำข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันเพื่อเอาชนะความท้าทายทางธุรกิจ เพื่อผลักดันผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้เติบโตได้ดี โดยมีรายได้รวม 3,071.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย และมีกำไรสุทธิ 344.22 ล้านบาท
ความสำเร็จดังกล่าว สะท้อนขีดความสามารถการแข่งขันทางธุรกิจของ DRT ด้วยจุดแข็งแบรนด์ 'ตราเพชร' ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายสามารถนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง พร้อมช่องทางการจำหน่ายครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนประสิทธิภาพการผลิตที่รักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ย 80-90% ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปีนี้ในอัตรา 0.26 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 222.31 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำ DRT เป็นหุ้นปันผลที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยกำหนดวันปิดสมุดพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 5 กันยายน 2566 และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 15 กันยายน 2566 นี้
สำหรับแผนงานครึ่งปีหลัง จะมุ่งส่งเสริมขีดความสามารถการแข่งขันการทำตลาดภายใต้แบรนด์ 'ตราเพชร' เพื่อผลักดันการเติบโต 5% ตามเป้าหมาย พร้อมกับบริหารจัดการประสิทธิภาพการผลิตให้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ย 80-90% เพื่อจัดการความเสี่ยงจากปัจจัยด้านต้นทุนการผลิตและรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 25-27% ให้ได้ตามแผน