กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--สหมงคลฟิล์ม
เป็นนักแสดงรุ่นเด็กมากความสามารถคนหนึ่งของวงการภาพยนตร์ไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับ “น้องเกรซ นวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ” ที่ล่าสุด กำลังจะมีภาพยนตร์ไทยแนวแอ็คชั่น-คอเมดี้-ดราม่าเรื่อง “ส้มตำ” ออกฉายในวันที่ 29 พ.ค. นี้ บทบาทของน้องเกรซในเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เราไปพูดคุยกับเธอกันดีกว่า
บทบาท-คาแร็คเตอร์
ในเรื่องนี้เกรซรับบทเป็น “กะเต็น” ค่ะ ในคาแร็คเตอร์นี้ ก็จะเป็นคนกะล่อน หาเงินมาช่วยแม่ เจ้าความคิด ชอบวางแผน แล้วก็วางแผนการโกหก ห้ามใครจับได้นะ ไปขโมยอะไรก็ต้องโกหกทั้งพี่สาว ทั้งแม่เพื่อเอาเงินมาช่วยเหลือแม่ค่ะ
แตกต่างจากเรื่องก่อน ๆ อย่างไรบ้าง
ก็แตกต่างนะคะ ที่เล่นมาก็จะเป็นคนธรรมดาบ้าง เป็นคุณหนูบ้างอะไรอย่างงี้ แต่ว่าในเรื่องนี้จะเป็นเด็กบ้าน ๆ คนหนึ่ง อยู่ชายทะเลและก็ขายของให้กับฝรั่งที่มาท่องเที่ยวที่พัทยา เป็นคนตำส้มตำช่วยแม่ แล้วก็กะล่อน โกหกด้วย แต่เป็นการโกหกที่จะช่วยเหลือครอบครัวนะคะ ก็เป็นอีกคาแร็คเตอร์ที่ไม่เคยเล่นมาก่อนค่ะ
แล้วตัวกะเต็นเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องราวนี้ได้อย่างไร
เรื่องเริ่มต้นก็คือว่า กะเต็นไปทะเลาะกับจิ๊กโก๋เจ้าถิ่นที่พัทยา แล้วก็เผอิญวิ่งหนีกันมาจนมาเจอกับยักษ์นาธานที่ในเรื่องชื่อว่า “บาร์นนี่” เค้าก็หมดตัวเพราะถูกผู้หญิงหลอกมา ก็มาเจอกันในซอยเล็ก ๆ เค้าก็ช่วยกะเต็นจากแก๊งจิ๊กโก๋ไว้ได้ หลังจากนั้นกะเต็นก็พาเค้ามาทำแผลที่วัด แล้วให้พี่สาวคือ “ดอกหญ้า” ที่เล่นโดยแคทมาช่วยดูแลยักษ์คนนี้ด้วย แล้วก็พาไปเจอแม่ พาเค้าไปอยู่ด้วย ด้วยความทะเล้นของกะเต็น ก็เลยแกล้งให้บารน์นี่กินส้มตำ แต่พอเค้ากินส้มตำแล้วเค้าก็เกิดแพ้พริก แพ้ความเผ็ดของส้มตำ เค้าก็เลยทำ
ร้านส้มตำพังหมดเลย ก็เลยต้องช่วยกันคิดหาเงินมาทำร้านส้มตำใหม่ แต่กะเต็นก็ดันไปขโมยกระเป๋าตังค์ที่มีของสำคัญบางอย่างของแก๊งโจรกรรมอยู่ สุดท้ายก็เลยโดนตามล่า แล้วก็เกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นอีกค่ะ
มีการทำความเข้าใจบทยังไง และต้องเรียนแอ็คติ้งเพิ่มเติมบ้างมั้ย
ก็มีนิดนึงค่ะ แบบว่าจะโกหกให้เค้าเชื่อยังไง รวมถึงพี่กุ้ง (นนทกร ทวีสุข — ผู้กำกับ) ก็เข้ามาสอนด้วยว่า คาแร็คเตอรของเราเป็นอย่างนี้ ๆ นะ ต้องเล่นอย่างนี้ ๆ นะ แล้วเราก็อ่านบทเพิ่มเติมให้เข้าใจยิ่งขึ้นค่ะ ที่ยากสำหรับเกรซก็เป็นเรื่องที่เราต้องร้องไห้นี่แหละค่ะ
ฉากร้องไห้ที่ว่าเรื่องราวเป็นยังไง แล้วเล่นยากยังไงบ้าง
ฉากร้องไห้เหรอค่ะ ก็จะเป็นตอนที่เราไปโกหกแม่ว่า เราแค่ไปรำมวยโชว์เฉย ๆ นะ แต่ที่จริงพาพี่สาวไปชกมวยแล้วก็บอกพี่สาวว่าแม่ให้ไปชกมวยแล้วไม่เป็นไร และพอเสร็จแล้วกลับมา แม่กับพี่สาวก็รู้ว่ากะเต็นเนี่ยเป็นคนโกหกจริง ๆ และเราก็ต้องไปร้องไห้กับพี่สาวเราว่าขอโทษนะ แต่ว่าเป็นการร้องไห้ที่ห้ามพูดอะไรเลยค่ะ ต้องแสดงออกทางสีหน้าและแอ็คติ้งอย่างเดียว
พี่กุ้งเค้าก็คุยกับเกรซว่า นี่คิดดูสิ เราโกหกพี่สาว โกหกแม่เรา แล้วก็ยังทำต่อไปอีก เค้าก็พูดไปเรื่อย ๆ บิวท์จนเรากับแคทที่เล่นเป็นพี่สาวร้องไห้ได้ น้ำตาไหลจริง ๆ ค่ะ ก็ยากอยู่เหมือนกันค่ะ แต่เล่นแค่ 4 เทคเองนะคะ 2 เทคแรก เป็นวันแรก แล้วพอไปตัดดูในจออีกทีมันเห็นขาตั้งกล้องก็เลยต้องไปถ่ายใหม่
บทนี้เหมือนหรือต่างจากตัวน้องเกรซยังไงบ้าง
ก็แตกต่างกันเลยนะคะตรงที่เราไม่ได้ไปขายของที่พัทยาจริง ๆ เราไม่ได้ชอบพูดโกหก หรือขโมยของเขาเหมือนอย่างตัวกะเต็นในเรื่อง แต่จริง ๆ แล้วตัวกะเต็นเค้าเป็นคนดีนะคะ ชอบช่วยเหลือครอบครัว ก็เหมือนเกรซตรงนี้แหละค่ะ (ยิ้ม)
เล่าถึงฉากแอ็คชั่นในเรื่องนี้ให้ฟังหน่อย แตกต่างไปจากเรื่องก่อน ๆ ยังไง
ในเรื่องนี้ส่วนมากเกรซจะไม่ค่อยได้แอ็คชั่นนะคะ เราจะกะล่อนอย่างเดียวมากกว่า แต่แบบว่าก็จะมีช่วงแรก ๆ ที่ช่วยพี่สาวเราสู้บ้างนิดหน่อย แล้วก็ช่วงหลัง ๆ ที่เราพยายามจะช่วยนาธานแต่ช่วยไม่ได้น่ะคะ เพราะคาแร็คเตอร์ในเรื่องนี้ของเกรซจะเน้นเป็นคนวางแผนต่าง ๆ มากกว่าค่ะ
ชอบกิน ”ส้มตำ” มั้ย
ก็กินได้ค่ะ อยู่ในกองเขาก็ตำให้กิน ก็กินได้ค่ะ
ที่ถ่ายทำมา เจอซีนยาก ๆ อะไรบ้าง
ซีนยาก ๆ นอกจากฉากร้องไห้อย่างที่บอกไปแล้วนะคะ ก็จะเป็นตอนที่อยู่ในโกดังค่ะ มันร้อนมาก แล้วก็ต้องทำอารมณ์ แล้วตอนนั้นมีทั้งพริกกระเทียม โยน ๆ ใส่ครก ยากตรงที่เราต้องแอบเข้าไปป้อนนาธานด้วย คือฉากที่โกดัง มันก็จะเป็นตอนที่นักมวยปล้ำฝ่ายตรงข้าม 3 คนตามล่าพวกเรามาจนสุดที่โกดังนี้แล้ว ก็มีการสู้กัน ตัวนาธานก็สู้เค้าไม่ได้หรอก กำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ กะเต็นก็คิดขึ้นได้ว่า เจ้ายักษ์เนี่ยกินส้มตำแล้วจะมีพลัง ก็เลยคิดว่าเอาส้มตำเนี่ยไปป้อนดีกว่าเขาจะได้มีแรงสู้ ในฉากนี้เกรซต้องตำส้มตำตรงนั้นด้วย มันเป็นอะไรที่ยากอีกฉากค่ะ
แล้วประทับใจกับฉากไหนบ้าง
ตอนแรก ๆ ก็จะประทับใจกับฉากที่สู้กันตั้งแต่เปิดมาฉากแรกเลยค่ะ ที่สู้กับจิ๊กโก๋ เพราะว่าฉากนี้เราจะมีคำอยู่คำหนึ่งที่เราต้องพูดกับพี่สาวเราที่เข้ามาช่วยว่า “เยี่ยมไปเลยเจ๊” แล้วเป็นคำที่นาธานเขาจำติดปากมาจนถึงทุกวันนี้ “เยี่ยมไปเลยเจ๊” อะไรอย่างงี้ ก็จะประทับใจคำนั้นมาก และฉากนั้นก็แบบเทคเดียวผ่านด้วย (หัวเราะ)
บรรยากาศของกองถ่ายนี้เป็นยังไงบ้าง
ก็จะสนุกมากนะคะ ตอนที่มีพี่ ๆ ฝึกงาน เขามาทำงาน เหมือนรู้สึกว่าเราได้มีคนแกล้งแล้ว (หัวเราะ) มีคนเล่นด้วยเยอะค่ะ แล้วก็ได้เล่นกีตาร์กับแคทมาตลอด ได้ร้องเพลงกันอะไรอย่างนี้ พี่ ๆ ฝึกงานเขาก็จะมาเล่นด้วย พี่ ๆ ในกองถ่ายก็มาสอนอะไรเยอะแยะค่ะ สนุกดีค่ะ
อุปสรรคในการแสดงหรือการถ่ายทำมีอะไรบ้าง
ก็จะเป็นช่วงดึก ๆ ค่ะ เราเหนื่อย หรือเราร้อน เราไม่ไหว แล้วก็มีช่วงที่นาธานเขาปวดหลังก็ต้องหยุดพักกองไป 2-3 วันค่ะ อย่างการถ่ายทำฉากตอนกลางคืน ตอนนั้นก็จะถ่ายที่ทะเล แล้วเขาก็ต้องแบบเล็งให้เสร็จในคืนนั้นเลย เพราะอีกวันหนึ่งก็ต้องเปลี่ยนฉากเป็นอีกฉากหนึ่งแล้ว ก็ต้องทำงานแข่งกับเวลาน่ะค่ะ ต้องรีบถ่ายให้เสร็จให้ได้ เราก็มีเหนื่อยมีง่วงบ้างเป็นธรรมดาค่ะ แต่สุดท้ายงานก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
ถ่ายทำที่พัทยาเป็นยังไงบ้าง
ก็สนุกดีค่ะ เพราะว่าเราได้ไปในที่ ๆ เราไม่เคยไป เราได้รู้ว่าเนี่ย ถ้าเราเป็นตัวละครตัวนี้นะ เราคงได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จริง ๆ ก็น่าจะสนุกตื่นเต้นไปอีกแบบ แล้วก็ตัวดำขึ้นด้วยค่ะ (หัวเราะ)
การร่วมงานกับผู้กำกับเป็นอย่างไร
การร่วมงานกับพี่กุ้งเหรอคะ พี่กุ้งเค้าเป็นคนสนุกสนาน แต่เวลาทำงานก็จะจริงจังมากค่ะ แล้วอย่างถ้าในเรื่องเราต้องร้องไห้ เขาก็จะร้องไห้ตาม ในเรื่องเรามีความสุข เขาก็จะมีความสุขตามเรา แล้วเวลาเขาคุยเรื่องซีเรียส ๆ เขาก็จะดูซีเรียสจริง ๆ แต่รวม ๆ แล้วพี่กุ้งเป็นคนใจดีนะคะ ตั้งใจทำงานมาก เกรซก็รู้สึกดีนะคะที่ได้ร่วมงานกับพี่กุ้งด้วย
แล้วมาร่วมแสดงกับแคทเป็นยังไงบ้าง
ก็สนุกดี เพราะเราสนิกันอยู่แล้วจากเรื่อง POWER KIDS มาเจอกันอีกที เป็นเพื่อนกันมาตลอด โทรหากันอยู่เรื่อย ๆ แล้วพอเวลาเราไม่เข้าใจเราก็จะถามไปด้วยกัน ไปช่วยถามนี่หน่อย แคทก็จะถามให้ พอแคทมาบอกเกรซว่าถามให้หน่อย เกรซก็จะไปถามให้ ก็เหมือนเป็นพี่เป็นน้องกันจริง ๆ เลยค่ะ
แล้วร่วมงานกับนาธานเป็นครั้งแรกเป็นอย่างไรบ้าง
นาธานเขาแสดงเก่งมาก เพราะว่าเขาเคยผ่านงานหนังหลายเรื่องแล้ว แล้วก็เขาตั้งใจมาก แม้แต่ตอนที่เขาเจ็บหลัง แต่พี่เขาบอกว่าให้อุ้มเกรซนะ และก็อุ้มแคทให้ขึ้น เขาก็บอกว่าได้...อุ้มได้ ไม่มีปัญหา เป็นคนทุ่มเทกับงานแสดงมากค่ะ แล้วเขาก็เป็นคนน่ารักนะคะ ถึงจะตัวใหญ่แต่ก็เป็นคนใจดี สนุกสนาน หยอกล้อกันได้ค่ะ
จำครั้งแรกที่ต้องเข้าฉากกับนาธานได้มั้ย เป็นยังไง
ฉากแรกที่เข้าร่วมกันเหรอคะ ก็จะเป็นฉากที่เราวิ่งและก็มาเจอนาธาน ฉากนั้นก็สนุกดีค่ะ เราเจอนาธานครั้งแรกเลย พอไปเจอกันเขาก็บอกว่า เนี่ย...เขาต้องทับเกรซ เกรซก็บอกทับไปเลย เขาทับจริง ๆ แล้วเราก็เจ็บ เค้าก็เจ็บ เกรซก็เจ็บโดนเขาทับ วิ่งอยู่ประมาณ 3-4 เทคได้ฉากนั้น เหนื่อยแต่ก็สนุกค่ะ
เห็นมีฉากที่ต้องตำส้มตำร่วมกันด้วย
ฉากตำส้มตำเหรอค่ะ เกรซกับนาธานก็ต้องช่วยกันตำส้มตำ เขาก็ดูสนุกมากเลย เขาไม่เคยเห็นครกยักษ์ใหญ่มาก ๆ อย่างในเรื่องมาก่อน ก็จะพยายามตำ ๆ ๆ เขาก็จะคอยถามว่า ตำยังไง ตำยังไงดี ช่วยสอนเขาหน่อย เราก็ช่วย ๆ สอนเขา ก็สนุกดีค่ะฉากนี้
แล้วร่วมงานกับพี่กิ่งที่เล่นเป็นแม่ เป็นครั้งแรกด้วยเหมือนกัน
ใช่ค่ะ แสดงกับพี่กิ่งเป็นครั้งแรก พี่เขาแสดงได้ดีค่ะ เขามีอะไรไม่เข้าใจ เขาก็แบบมาคุยกัน เป็นกันเองมากเลย แล้วก็ส่งอารมณ์ให้ แสดงได้เหมือนเป็นแม่เราจริง ๆ เลยค่ะ พี่เขาก็คอยบอกว่า ไม่เข้าใจอะไรก็คุยกันได้นะ ไม่เป็นไร ก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกับพี่กิ่งด้วยค่ะ
ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้
ความน่าสนใจของหนังเรื่อง “ส้มตำ” มันก็เหมือนรสชาติส้มตำนั่นแหละค่ะ มันมีทั้งความสุข ความเศร้า ความสนุก ความมัน เหมือนชีวิตปกติเลยค่ะ เราได้รู้ว่า แม้จะเป็นแค่เรื่องของเด็ก 2 คน แต่ว่ามันก็มีเรื่องราวหลาย ๆ อย่างที่ต้องเข้าไปพบเจออย่างไม่คาดฝันมาก่อน
ก็อยากให้ทุกคนมาดูนะคะ มันสนุกจริง ๆ แล้ว เรื่องนี้รสชาติก็เหมือน “ส้มตำ” ชื่อเรื่องเลยค่ะ มีทั้งเผ็ด หวาน มัน เปรี้ยว แล้วเราก็มีทั้งบู๊ ทั้งเศร้า ทั้งสนุก มีทั้งนาธาน ทั้งเกรซ ทั้งแคท พี่กิ่ง แล้วก็ทุก ๆ คนก็ตั้งใจทำงานกันเต็มที่เพื่อความสนุกของหนังค่ะ ก็อยากให้ทุกคนมาดูกันค่ะ