HOP INN ผู้นำโรงแรมระดับบัดเจ็ทที่มีการดำเนินงานอยู่ทั่วประเทศไทยและฟิลิฟปินส์ ประกาศแผนการลงทุนเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ขยายแบรนด์ HOP INN ให้บริการห้องพัก 14,000 ห้องจากกว่า 150 โรงแรมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บรรลุแผนการขยายพอร์ตโรงแรมระดับบัดเจ็ท ดันรายได้โต 4 เท่า ภายในปี พ.ศ. 2573
HOP INN ดำเนินการภายใต้ บริษัท เอราวัณ ฮ็อป อินน์ จำกัด ในเครือของ บริษัท ดิเอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (SET : ERW) เตรียมแผนการลงทุนเพื่อเพิ่มสาขาในประเทศไทยให้ครบ 100 โรงแรม ประเทศฟิลิปปินส์ 15 โรงแรม และขยายโอกาสทางธุรกิจไปยังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอีก 35 โรงแรม ทั้งนี้ การขยายธุรกิจจะดำเนินการทั้งในรูปแบบของการเข้าซื้อกิจการ การพัฒนาโครงการใหม่ การเช่าเพื่อดำเนินการ และแฟรนไชส์
คุณเพชร ไกรนุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ของเอราวัณ ฮ็อป อินน์ กล่าวว่า "แบรนด์ฮ็อป อินน์ ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานทั้งในประเทศไทยและฟิลิปปินส์มายาวนานเกือบทศวรรษตั้งแต่ที่บริษัทฯ เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2557 เรามองว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะทำให้บริษัทฯ มีการเติบโตทางธุรกิจแบบก้าวกระโดด จากความเป็นผู้นำในกลุ่มโรงแรมระดับบัดเจ็ทของแบรนด์ ฮ็อป อินน์ ในทั้งสองประเทศ ซึ่งได้รับการยอมรับจากกล่มลูกค้าทั้งนักเดินทางเพื่อธุรกิจและนักท่องเที่ยวด้วยความมั่นใจในคุณภาพของมาตรฐานห้องพักและการบริการ ซึ่งเรามั่นใจว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพิ่มเติมได้อย่างแน่นอน"
"เราเลือกประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกที่เราจะขยายธุรกิจเพิ่มเติมในเอเชียแปซิฟิก โดยใช้เงินลงทุน 1.7 พันล้านบาท ผ่านการเข้าซื้อกิจการใน 3 โรงแรมและอีก 1 โรงแรมในรูปแบบของสัญญาเช่าระยะยาว โดยมีจำนวนห้องพักรวม 373 ห้องพักซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2566 โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายแล้วจำนวน 2 โครงการและสัญญาเช่าระยะยาว 1 โครงการ บนทำเลทองของเมืองโตเกียวและเมืองเกียวโต ซึ่งเป็นเมืองจุดหมายปลายทางหลักที่สำคัญทางการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น และสำหรับอีก 1 โรงแรมกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ มองเห็นโอกาสในการเข้าไปลงทุนของโรงแรมระดับบัดเจ็ทในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่นนั้นมีเสถียรภาพและมีแนวโน้นการฟื้นตัวที่ดี มีอัตราการเติบโตของห้องพักต่ำ ซึ่งเป็นโอกาสทางการแข่งขันที่ดี นอกจากนี้ การลงทุนในประเทศญี่ปุ่นยังมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ รวมถึงการอ่อนค่าของค่าเงินเยน (Japanese Yen) ที่ต่ำสุดในรอบ 25 ปี ปัจจัยทั้งหมดนี้ล้วนช่วยสนับสนุนความน่าสนใจในการลงทุนในประเทศญี่ปุ่น และเราคาดว่าจะสามารถขยายการลงทุนในกลุ่มโรงแรมระดับบัดเจ็ทของเราได้อย่างต่อเนื่อง" คุณเพชรฯ กล่าวเสริม
ฮ็อป อินน์ ยังคงมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองต่อความต้องการตลาดโรงแรมระดับบัดเจ็ทที่มีเพิ่มมากขึ้นทั่วเอเชียแปซิฟิก บริษัทฯ มุ่งสร้างประสบการณ์การเข้าพักที่มีคุณภาพที่สามารถเติมเต็มความต้องการของลูกค้าธุรกิจและลูกค้านักท่องเที่ยวให้เท่าทันอยู่เสมอ ด้วยประสบการณ์ที่มีมาเกือบทศวรรษ ฮ็อป อินน์ ตั้งใจที่จะยกระดับโรงแรมระดับบัดเจ็ทเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมในอนาคต พัฒนาศักยภาพและมาตรฐานเพื่อตอบสนองต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน