สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีสำหรับการจัดพิธีมอบรางวัลความเป็นเลิศทางความคิดสร้างสรรค์ หรือ Creative Excellence Awards (CE Awards) ที่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อเชิดชูและส่งเสริมบุคคล ชุมชน ผู้ประกอบการ หน่วยงาน องค์กร หรือสถาบัน ต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริการ เครื่องมือ หรือกระบวนการ โดยนำความคิดสร้างสรรค์ มาประยุกต์ใช้ในการสร้างให้เกิดคุณค่า(Value Creation) ที่ก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคมหรือสิ่งแวดล้อมเพื่อนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศ
งานนี้ได้รับเกียรติจากนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานมอบรางวัลให้กับนักสร้างสรรค์ภายในงาน ได้กล่าวถึงรางวัลนี้ว่า
"ปีนี้เป็นปีแรกกับงานมอบรางวัลความคิดสร้างสรรค์ Creative Excellence Awards เพื่อเฉลิมฉลองให้แก่ศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย "ความคิดสร้างสรรค์" คือเสน่ห์ของคนไทยที่ไม่แพ้ชาติใด ทั้งนี้ผมขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับรางวัล ที่กล้าคิด มีแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความคิด สังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม ที่ช่วยยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทยได้ต่อไป เพราะความคิดสร้างสรรค์ เป็นเรื่องที่ไม่มีวันจบสิ้น"
ด้าน ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) กล่าวทิ้งท้ายว่า "รางวัล Creative Excellence Awards หรือ CE Awards ไม่ใช่เพียงรางวัลการันตีศักยภาพ และความสำเร็จของผู้ที่ได้รับรางวัลเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์และการแสดงออกผ่านวิสัยทัศน์แห่งความเข้าใจของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกของเรา รวมถึงเป็นการกระตุ้นให้เราทุกคนตระหนักถึงผลกระทบที่ลึกซึ้งและยิ่งใหญ่ ของความคิดสร้างสรรค์ในทุกมิติของชีวิต ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ให้คงอยู่สู่คนรุ่นถัดไป ซึ่งหัวใจของรางวัลนี้อยู่บนความเชื่อที่ว่า ความคิดสร้างสรรค์ คือพลังที่ไร้ขอบเขต ที่ไม่ว่าจะอยู่ในตัวของบุคคลใด ธุรกิจใด หรือสถานที่ใด พลังแห่งความคิดสร้างสรรค์นี้ จะทำหน้าที่ในการจุดประกายและสร้างสรรค์เส้นทางอันหลากหลาย และสามารถส่งต่อพลังเหล่านี้สู่สังคมสืบต่อไปในอนาคต"
สำหรับรางวัล Creative Excellence Awards หรือ CE Awards มีทั้งหมดจำนวน 28 รางวัล แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) Creative City Awards รางวัลการพัฒนาย่าน สถานที่ชุมชน หรือเมืองที่สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว 2) Creative Business Awards ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ทั้ง Sustainability Awards เป็นรางวัลสำหรับผลิตภัณฑ์ บริการ และโครงการที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบ และ Value Creation Awards รางวัลของการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างคุณค่าเพิ่มในเชิงธุรกิจ และ 3) Creative Social Impact Awards รางวัลสำหรับการนำความคิดสร้างสรรค์ไปประยุกต์ใช้ เพื่อแก้ไขหรือคลี่คลายประเด็นต่าง ๆ ทางสังคม โดยมีตัวอย่างของผลงานที่ได้รับรางวัลซึ่งมีความน่าสนใจดังนี้
เริ่มต้นที่ รางวัลประเภท Creative City Awards สาขา Creative City Cultural Asset Award เป็นผลงาน Phuket Peranakan Festival โดย จังหวัดภูเก็ต, องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และสมาคมเพอรานากันประเทศไทย โดยนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และ นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวถึงรางวัลดังกล่าวว่า "รู้สึกภูมิใจแทนชาวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทุกภาคส่วน รวมถึงนักท่องเที่ยวให้ความสนใจและให้การสนับสนุน กับขบวนพิธีการแต่งงาน วิวาห์หวานบาบ๋าภูเก็ต เพื่อฟื้นฟูประเพณีวิวาห์บาบ๋าภูเก็ต ที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมนี้ไว้ ร่วมกันสืบทอดอนุรักษ์จากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งคนรุ่นใหม่ก็ให้การตอบรับที่ดีมาก"
ส่วนของ รางวัลประเภท Creative City Awards สาขา Creative City Advocacy Award เป็นผลงาน โรงสีแดง หับ โห้ หิ้น โดย ภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม โดยนายรังษี รัตนปราการ นายกภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม ได้กล่าวว่า "รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูง ที่โรงสีแดง หับ โห้ หิ้น พื้นที่แห่งการเรียนรู้ และจุดเช็คอินสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่สำคัญของจังหวัดสงขลา ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ จากการได้เห็นความแตกต่างระหว่างตอนเด็กและตอนปัจจุบัน ทรุดโทรมลงมาก เราจึงอยากฟื้นฟู และอนุรักษ์ให้คงไว้ ให้สงขลาของเรากลับมาน่าอยู่เหมือนเดิม งานนี้จะทำคนเดียวไม่ได้ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน จึงภูมิใจที่ได้รับรางวัลครั้งนี้ที่สุด"
ส่วนของCreative Business Awards สาขา Creative Sustainable Project Award (For Large Enterprise) เป็นผลงานโครงการ เชฟชุมชนชวนกินถิ่นระยอง(ฮิ) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล โดย ดร. ชญาน์ จันทวสุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานความยั่งยืน องค์กร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) ได้กล่าวว่า "โครงการนี้มีเป้าหมายในการอนุรักษ์อาหารถิ่นของระยอง ซึ่งแต่ละเมนูได้ใช้วัตถุดิบในพื้นที่ระยองมาเป็นส่วนประกอบสำคัญในการพัฒนาเมนูอาหารท้องถิ่น เน้นให้คนในท้องถิ่นมีรายได้และมีอาชีพอย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการนี้ได้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยคนในพื้นที่ก็ให้ความสนใจไปใช้บริการ นักท่องเที่ยวก็ต่างชื่นชม ชื่นชอบ ซึ่งในอนาคตมีแผนที่จะนำไปต่อยอดกับจังหวัดอื่น ๆ ด้วย จึงต้องขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งชุมชน และทีมงาน ถ้าไม่ได้ทุกคนโครงการนี้คงไม่เกิดขึ้น"
และสุดท้ายรางวัล Creative Business Awards สาขาCross-Sector Collaboration Award ที่เป็นรางวัลที่บุคคล หน่วยงาน องค์กร หรือสถาบัน ได้สร้างความร่วมมือ ผลักดันกิจกรรม/โครงการที่มีคุณค่าทางธุรกิจให้เกิดขึ้นจนเกิดผลลัพธ์ที่มากกว่า 1 + 1 = 2 โดยเป็นผลงาน LUMPINEE BOXING STADIUM ซึ่งนายพลตรีสัจจา สุขสุเมฆ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก(มวยไทยลุมพินี) และ คุณเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน Co-Chief Executive Officer บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า "รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลนี้ โดยผลงานนี้เป็นผลงานร่วมงานกันระหว่างสนามมวยลุมพินี และ อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ เพื่อให้สนามมวยลุมพินีเป็นมากกว่าสนามมวยเป็นพื้นที่จัดกิจกรรม มีระบบแสงสีเสียงที่มีความเป็นมาตรฐานระดับโลก ซึ่งการร่วมมือกันครั้งนี้ถือว่าเป็นการผสมผสานระหว่างหน่วยงานได้อย่างลงตัวและได้รับผลตอบรับเหนือความคาดหมาย"