"โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล" ปลื้มแบรนด์ "Rojukiss" โตแรงกว่าตลาด กางแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง รองรับอุตสาหกรรมโตต่อเนื่อง มุ่งทำการตลาดในการสร้างแบรนด์สินค้ากระตุ้นยอดขาย พร้อมศึกษาโมเดลใหม่ในตลาดต่างประเทศเดิม ต่อยอดในตลาดใหม่ในจีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย
นางสาววิภาภรณ์ เนียมละออง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 บริษัทฯมีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 24% จากปีที่แล้ว จากยอดขายในประเทศที่เติบโตถึง 45% โดยได้แรงหนุนหลักมาจากสินค้าหลักอย่างผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เติบโตแข็งแกร่ง +31% จากแบรนด์ Rojukiss สอดคล้องกับข้อมูลตลาดมอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวหน้าที่แบรนด์ Rojukiss ยังสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ในลำดับที่ 6 เป็นผู้นำแบรนด์ในตลาดประเทศไทย และตามหลังเพียงแบรนด์ต่างประเทศ แย้มข้อมูลล่าสุดเดือนกรกฎาคมโตแรงกว่าตลาด จากการมุ่งทำการตลาดและสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์ Sis2Sis ยังสามารถรักษาการเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน +118%
สำหรับครึ่งปีหลังบริษัทฯได้เตรียมแผนธุรกิจในการรองรับอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องนี้ ด้วยการเพิ่มช่องทางการขายและช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ๆ เช่น การทำ Live Selling ที่สามารถ Interactive กับลูกค้าในการพูดคุยนำเสนอแบรนด์สินค้า ซึ่งจะสามารถกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้ทันทีผ่านช่องทาง E-Commerce ซึ่งตรงกับ Lifestyle ของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าเพิ่มตู้วางสินค้า จากเดิมที่มีอยู่มากกว่า 200 จุดภายใต้แบรนด์ Rojukiss และ Sis2Sis ในร้านโมเดิร์นเทรด ร้านค้าปลีก และร้านเพื่อความงามและสุขภาพทั่วประเทศ ที่จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงและสร้างความน่าสนใจในการเลือกซื้อสินค้า รวมถึงการปรับแผนธุรกิจในต่างประเทศ และการเดินหน้าขยายตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพเช่น จีน ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย
"ยอดขายในประเทศเติบโตได้ดี จาก Rojukiss และ Sis2Sis จากการมุ่งเน้นทำการตลาดในการผลักดันยอดขายให้เติบโตต่อเนื่อง เราเห็นข้อมูลตลาดของแบรนด์ Rojukiss ที่ยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดเป็นลำดับที่ 6 นำหน้าแบรนด์ไทยทุกแบรนด์ในกลุ่มสินค้า Facial Moisturizer ซึ่งเป็นที่น่าพอใจที่เรายังรักษาการเติบโตในระดับที่ดี และโตกว่าภาพรวมตลาดในเดือนกรกฎาคม ส่วนครึ่งปีหลังเราจะซัพพอร์ตยอดขายให้โตขึ้นไปอีกด้วยการขยายรูปแบบการขายและการจัดจำหน่ายใหม่ๆ เช่น live selling ผ่าน E-Commerce การมีตู้สินค้าของแบรนด์เราเองในการเสริมสร้างการรับรู้ ดึงดูดความน่าสนใจให้กับแบรนด์สินค้าในการเลือกซื้อ ส่วนตลาดต่างประเทศ เรากำลังศึกษาหาโมเดลใหม่ที่จะมาปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในตลาดปัจจุบันที่มีการแข่งขันที่รุนแรง และเดินหน้าศึกษาธุรกิจในตลาดต่างประเทศใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น จีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เพื่อเป้าหมายการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัท" นางสาววิภาภรณ์กล่าว