นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) เตรียมนำเงินสดจากการดำเนินงาน สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน จ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปการคืนเงินทุนจดทะเบียนหน่วยละ 0.177 บาท ด้วยการลดมูลค่าที่ตราไว้ จากหน่วยละ 8.905 บาท เหลือหน่วยละ 8.728 บาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับคืนเงินทุนในวันที่ 29 สิงหาคม 2566 และจะจ่ายคืนเงินทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 12 กันยายน 2566
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงเดือนเมษายน 2566 ถึงมิถุนายน 2566 (ไตรมาสที่ 1 ปี 2566/2567) กองทุน BTSGIF มีรายได้รวมจำนวน 1,045.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสูง 79.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงเล็กน้อย 2.3% จากไตรมาสก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากรายได้จากเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนสิทธิรายได้สุทธิ จากการดำเนินงานระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพสายหลักตามสัญญาสัมปทาน เพิ่มขึ้น 78.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 2.5% จากไตรมาสก่อนเป็น 1,040.1 ล้านบาท โดยในไตรมาสนี้ รายได้ค่าโดยสารจำนวน 1,533.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่คลี่คลายและการปรับอัตราค่าโดยสาร เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน รายได้ค่าโดยสารลดลง 3.6% จากจำนวนผู้โดยสารลดลง เนื่องจากจำนวนวันทำการในไตรมาสนี้น้อยกว่าไตรมาสก่อนจากวันหยุดหลายวัน (ผลกระทบตามฤดูกาล)
ทั้งนี้ รอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 (ไตรมาสที่ 1 ปี 2566/2567) กองทุน BTSGIF มีขาดทุนสะสม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 จำนวน 11,891.6 ล้านบาท ดังนั้น กองทุนจึงไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนสำหรับไตรมาสนี้ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ระบุในหนังสือชี้ชวนของกองทุน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต