ตั้งศูนย์เกื้อกูลฯ ช่วยภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง จัดสินค้าราคาถูก 50 เขต 9 พ.ค. นี้

ข่าวทั่วไป Wednesday April 30, 2008 09:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--กทม.
เศรษฐกิจฝืดเคือง ค่าครองชีพประชาชนสูงขึ้น กทม. ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการทุกด้านให้อยู่ในภาวะเศรษฐกิจวิกฤติได้ จับมือพันธมิตรจัดตั้ง “ศูนย์เกื้อกูลผู้ประกอบการรายย่อย” อบรม“การอยู่รอดของธุรกิจในภาวะวิกฤติ” เตรียมจัดสินค้าราคาถูกทุกศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ใน 50 เขต เริ่ม 9 พ.ค. นี้ และเปิดร้าน “ข้าวแกงกทม.” ทั่วพื้นที่ ขายจันทร์-ศุกร์ เริ่ม 12 พ.ค. นี้
จัดตั้ง “ศูนย์เกื้อกูลผู้ประกอบการรายย่อย”
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยผลการประชุมคณะผู้บริหารกทม. เกี่ยวกับมาตรการเกื้อกูลประชาชนในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจกรุงเทพมหานคร ว่า จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ค่าครองชีพประชาชนสูงขึ้น ราคาน้ำมัน ราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคส่วนใหญ่มีราคาสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกและเศรษฐกิจอยู่ในภาวะวิกฤติ โดยรายได้ของประชาชนไม่เพียงพอ ทำให้เป็นหนี้สิน เกิดความเครียดจากการใช้จ่าย กรุงเทพมหานครจึงออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชน โดยมีพันธมิตรจากหน่วยงานเอกชน องค์กรต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ในทุกรูปแบบ โดยจัดตั้ง “ศูนย์เกื้อกูลผู้ประกอบการรายย่อย” มีที่ปรึกษาพันธมิตร ประกอบด้วย นักวิชาการ อาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญ ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ ดูแลเป็นพี่เลี้ยงเพื่อให้สามารถบริหารจัดการเงินของตนเองและครอบครัวให้ผ่านพ้นภาวะวิกฤติเศรษฐกิจได้ จัดกิจกรรมให้ความช่วยเหลือและเป็นพี่เลี้ยง ฝึกอบรม “การอยู่รอดของธุรกิจในภาวะวิกฤติ” เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับความรู้และแนวทางในการดำเนินธุรกิจ ส่วนด้านประชาชนจะให้ศูนย์บริหารเงินออมของกรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรมให้ความช่วยเหลือ แนะนำ ให้บริหารการเงินของตนเองและครอบครัว พร้อมจัดทำเอกสาร “การดำรงชีวิตอย่างพอเพียงในภาวะวิกฤติ” แจกจ่ายให้ประชาชนในกรุงเทพมหานครเป็นแนวทางในการดำรงชีวิต
เพิ่มเงินกองทุน 50 ล้านบาท
ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานครยังมีการสนับสนุนเงินยืมสะสมในการกู้เงิน ซึ่งสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชนนั้น ใช้ “กองทุนเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง” โดยเพิ่มเงินกองทุน 50 ล้านบาท ให้ผู้ประกอบการยืมไปบริหารจัดการ ส่วนผู้ประกอบการทั่วไปจะจัดประชุมร่วมกับภาคการเงินการธนาคารจัดตั้ง “ศูนย์เกื้อกูลเพื่อการบริหารเงินทุนในการประกอบการในภาวะวิกฤติ” ในสถาบันการเงินเพื่อปล่อยเงินกู้ ส่วนประชาชนทั่วไปจะจัดสรรเงินทุน 50 ล้านบาท ที่ประสบปัญหาเดือดร้อนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ ในสังคมได้อย่างปกติสุข และเป็นผู้ประสบปัญหาที่ต้องการความช่วยเหลือในเขตกรุงเทพมหานคร จะให้การสงเคราะห์เป็นเงินทุน ไปประกอบอาชีพ
หนุนหน่วยงานจัดคาร์พูลช่วยพนักงานลดค่าครองชีพ
สำหรับการลดรายจ่ายครัวเรือน มาตรการลดค่าครองชีพนั้น จะขอความร่วมมือจากสถานประกอบการและราชการในการจัดระบบ Car Pool ช่วยเหลือบุคลากรของตนเอง ประสานผู้ประกอบการขนส่งจัดทำตั๋วรายเดือนในราคาพิเศษ ระยะเวลา 3 เดือน และจัดทำคู่มือเส้นทางลัด
ดันโครงการ “เรียนฟรี เรียนดี อย่างมีคุณภาพ” ช่วยผู้ปกครอง
ส่วนมาตรการช่วยเหลือประชาชนในช่วงเปิดภาคเรียน กรุงเทพมหานครมีโครงการ “เรียนฟรี เรียนดี อย่างมีคุณภาพ” โดยจะเร่งให้ดำเนินการทันก่อนเปิดเทอม ซึ่งจะไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ จากผู้ปกครองในโรงเรียนสังกัดกทม. พร้อมประสานผู้ประกอบการสินค้าเกี่ยวกับการเรียนให้จัดทำเป็นสินค้าพิเศษราคาถูก เช่น ชุดนักเรียน ตำราเรียน สมุด อุปกรณ์การเรียน เป็นต้น และขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะจัดทำตั๋วหรือคูปองพิเศษสำหรับนักเรียนในราคาประหยัด
จัดตลาดนัดสินค้าราคาถูก และ “ร้านข้าวแกงกทม.” ทั่วกรุง
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครจะจัดตลาดนัดสินค้าราคาประหยัดในวันที่ 9-11 พ.ค. 51 เป็นต้นไป จัดเฉพาะวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ในแต่ละเขต โดยจัดในพื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งมาตรการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมนั้นจะนัดประชุมผู้เกี่ยวข้องในวันที่ 6 พ.ค. 51 นอกจากนี้ยังประสานผู้ประกอบการหาสินค้าทดแทนเข้าสู่ตลาด ลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการให้เหลือต้นทุนที่แท้จริง พร้อมจัดหาช่องทางจำหน่ายกระจายไปทั่วพื้นที่ ในสำนักงานเขต ตลาดกทม. โรงเรียนในสังกัดกทม. และชุมชน ส่วนในห้างสรรพสินค้าจะประสานให้จัดมุมเท่าทุน และชั่วโมงเท่าทุนเพื่อขายสินค้าราคาถูกแก่ประชาชน ขณะเดียวกันยังจัดตั้งร้านจำหน่ายอาหารราคาถูกทุกวันจันทร์-ศุกร์ ชื่อร้าน “ข้าวแกงกทม.” กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจะเริ่มเปิดขาย 12 พ.ค. 51 ด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ