กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--ธนาคารกสิกรไทย
กสิกรไทยมุ่งมั่นสร้างเครือข่ายเอสเอ็มอี จัดตั้งชมรมเครือข่ายธุรกิจ K SME Care เป็นศูนย์กลางเอสเอ็มอีของไทย หวังสมาชิกร่วมมือสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ คาดถึงปลายปีมีสมาชิก 3,000 ราย
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารกสิกรไทยได้เปิดโครงการ K SME Care เพื่อให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจอย่างยั่งยืนแก่ เอสเอ็มอีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งธนาคารมีนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาเครือข่ายสมาชิกของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดตั้งชมรมเครือข่ายธุรกิจ K SME Care ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางของกลุ่มผู้ประกอบการในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
ทั้งนี้ ชมรมเครือข่ายธุรกิจ K SME Care จะเป็นศูนย์รวมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่จะเกื้อหนุน ซึ่งกันและกัน ทั้งในด้านการใช้ทรัพยากรร่วมกัน การลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ การแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้และวิทยาการใหม่ๆ รวมทั้งการทำกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ (CSR) ซึ่งจะเป็นต้นแบบในการพัฒนาเครือข่ายธุรกิจเอสเอ็มอีไทยให้แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไปในอนาคต
นายปกรณ์ กล่าวว่า ชมรมเครือข่ายธุรกิจ K SME Care จะเน้นดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิก สังคมและประเทศชาติ โดยไม่หวังผลประโยชน์ส่วนบุคคล สำหรับกิจกรรมที่จะดำเนินการปีนี้ ในครั้งแรกเป็นการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการจัดการธุรกิจ ด้วยการปรับทัศนคติและเพิ่มมุมมองของผู้ประกอบการให้บริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเรื่อง “ลับสมอง สร้างอัจฉริยะให้ SMEs” โดยมีคุณหนูดี วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยะภาพ เป็นวิทยากร
นอกจากนี้ ชมรมเครือข่ายธุรกิจ K SME Care มีแผนที่จะดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลายในปี 2551 นี้ อาทิ การจัดสัมมนา งาน K SME Care Fair 2008 และงานกิจกรรม CSR ในแต่ละภูมิภาค ซึ่ง กิจกรรมเหล่านี้ ล้วนเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิก ในการเปิดโอกาสให้สมาชิกได้พบปะกันมากขึ้น สามารถขยายเครือข่ายธุรกิจในวงกว้าง รวมทั้งนำเสนอความรู้ใหม่ๆ เพื่อเปิดโลกทัศน์ในการทำธุรกิจให้แก่สมาชิกด้วย
สำหรับสมาชิกชมรมเครือข่ายธุรกิจ K SME Care ในช่วงแรกจะเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ผ่านการอบรมโครงการส่งเสริมการจัดการที่ยั่งยืนของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งขณะนี้มีเอสเอ็มอีทั่วประเทศผ่านการอบรมไปแล้ว 4 รุ่น จำนวนกว่า 1,600 ราย และคาดว่าจะมีสมาชิกเพิ่มเป็น 3,000 ราย ภายในสิ้นปีนี้